คสช.แจงจับ4นศ.-ผู้สื่อข่าวที่ราชบุรีเพราะผิดกม.ประชามติ
โฆษกคสช. แจงจับ นศ.กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ พร้อมนักข่าวประชาไท เพราะพบเอกสารขัดกม.ประชามติในรถ ด้านตำรวจคุมตัวไปฝากขัง
โฆษกคสช. แจงจับ นศ.กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ พร้อมนักข่าวประชาไท เพราะพบเอกสารขัดกม.ประชามติในรถ ด้านตำรวจคุมตัวไปฝากขัง
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ชี้แจง กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกลุ่มนักศึกษาและผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ประชาไทที่ราชบุรี โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมเนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่งคสช.และผิดตามพ.ร.บ.ประชามติ แม้จะไปให้กำลังใจเพื่อนก่อน แต่เจ้าหน้าที่พบพิรุธจึงขอตรวจสอบในรถและพบว่าในรถมีเอกสารปลุกระดมในเรื่องการชี้นำ การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
ส่วนการจับผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ประชาไทนั้น เพราะอยู่ในทีมที่มาด้วยกันในรถมีเอกสารปลุกระดมชี้นำ การลงประชามติ ด้วย แต่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบว่า ผู้สื่อข่าวรายนี้ไปทำหน้าที่ใด เพราะตอนที่จับกุม คงไม่ได้แยกว่า ใครเป็นใคร แต่ก็มาสอบสวนภายหลัง เป็นเรื่องของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังดำเนินการ
ทั้งนี้เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ต.ยุทธนา ภูเกล้าแก้ว สารวัตรสอบสวนสภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้นำตัวนายปกรณ์ อารีกุล, นายอนันต์ โลเกตุ, นายอนุชา รุ่งมรกต นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ และ นายภาณุวัฒน์ ทรงสวัสดิ์ชัย นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้, นายทวีศักดิ์ เกิดโภคา ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ประชาไท ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดราชบุรี หลังเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าได้ทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 หลังบุคคลทั้งหมดนั้นได้มาให้กำลังใจแกนนำกลุ่มนปช.บ้านโป่ง ซึ่งนำโดยนายบริบูรณ์ เกียงวรางกูร พร้อมพวก 18 คน ได้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนสภ.บ้านโป่ง ตามหมายเรียกตัว สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2559 เพราะมีผู้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดี นายบริบูรณ์ กับพวกฐานร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ด้วยการไปรวมตัวกันขึ้นแสดงป้าย ศูนย์ปราบโกงประชามติ รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจพบเอกสารในรถ พบแผ่นพับซึ่งมีข้อความ โจมตีการทำงานของรัฐบาลปัจจุบัน พร้อมทั้งสติ๊กเกอร์ที่มีข้อความโหวตโนจำนวนมากจึงได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม ขณะนำตัวกลุ่มนักศึกษาและผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ประชาไทออกมาจากสภ.บ้านโป่ง ได้มีกลุ่มมวลชนมามอบดอกกุหลาบเพื่อให้กำลังใจจำนวนมาก พร้อมทั้งส่งขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา โดยกลุ่มนักศึกษาทั้งหมดต่างก็พูดตลอดทางก่อนจะขึ้นรถว่า โหวตโน เป็นสิทธิ ไม่ผิดกฎหมาย