posttoday

ดัชนีเอสเอ็มอีวูบต่อ ลุ้นการเมืองชัดเจนดันจีดีพีโต

09 เมษายน 2562

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเดือนก.พ.อยู่ที่ 99.6 ปรับตัวลดลง เหตุยอดขาย-กำไรลดลง หวังการเมืองไทยมีทิศทางที่ดี

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเดือนก.พ.อยู่ที่ 99.6 ปรับตัวลดลง เหตุยอดขาย-กำไรลดลง หวังการเมืองไทยมีทิศทางที่ดี

นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (TSSI)เดือนกุมภาพันธ์ 2562 ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการของเอสเอ็มอี ทั่วประเทศ จำนวน 1,400 ตัวอย่าง พบว่า ดัชนี TSSI ประจำเดือนก.พ. 2562 อยู่ที่ระดับ 99.6 ปรับตัวลดลงจากเดือนมกราคม 2562 ที่อยู่ระดับ 104.0 ซึ่งต่ำกว่าค่าฐานที่ระดับ 100 ในรอบ 3 เดือน แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังคงมีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจอยู่ในระดับซบเซาลง

ทั้งนี้ดัชนี TSSI เดือนก.พ. ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า จากองค์ประกอบด้านยอดจำหน่าย ต้นทุนและกำไรเป็นหลัก ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความเห็นว่าสถานการณ์ทางการค้าอยู่ในระดับทรงตัว มียอดขายและกำไรน้อยกว่าในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ประกอบการมีการปรับแผนการขาย โดยการใช้โปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อเพิ่มขึ้น หรือเพื่อให้น่าสนใจมากกว่าคู่แข่ง จึงทำให้กำไรลดลง อีกทั้งลูกค้ามีการใช้จ่ายที่ลดลง ส่งผลให้เงินหมุนเวียนในกิจการลดลงด้วย ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 นับจากผ่านพ้นช่วงปีใหม่มา จากที่ผู้บริโภคมีการเร่งใช้จ่ายไปแล้ว

อย่างไรก็ตามในเดือนกุมภาพันธ์ยังคงมีเทศกาลตรุษจีนและวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายมากกว่าปกติ ถึงจะไม่มากเท่าช่วงปีใหม่ก็ตาม ในส่วนของสถานการณ์ทั่วไปของประเทศ ปัจจัยที่ยังคงบั่นทอนการใช้จ่ายของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องคือค่าครองชีพที่ไม่สอดคล้องกับรายได้ที่ได้รับ โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง

สำหรับดัชนี TSSI คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ยังอยู่ในระดับที่ดี เนื่องจากค่าดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าฐานที่ 100 และต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 สถานการณ์ด้านการค้าและบริการใกล้เคียงกับเดือนนี้ เนื่องจากในช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงก่อนเปิดภาคเรียน ผู้บริโภคมีภาระค่าใช้จ่ายของบุตรหลานมักใช้จ่ายลดลงในช่วงดังกล่าว หากสถานการณ์ทางการเมืองเป็นไปในทิศทางที่ดี ผู้ประกอบการคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติและขยายตัวได้อีกครั้ง

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการของ เอสเอ็มอี จำแนกตามสาขาธุรกิจ โดยสาขาธุรกิจที่มีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางธุรกิจโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี คือ สาขาค้าปลีกรถจักรยานยนต์/รถยนต์ บริการการก่อสร้าง และการขนส่งสินค้า ส่วนสาขาธุรกิจที่มีความเชื่อมั่นลดลงได้แก่ บริการด้านสุขภาพ/ความงาม การท่องเที่ยว โรงแรม/เกาสต์เฮาส์/บังกะโล และร้านอาหาร/ภัตตาคาร

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในทุกภาคธุรกิจยังคงมีความกังวลด้านต้นทุนในการประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นด้านต้นทุนของทุกสาขาธุรกิจในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ค่าดัชนียังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าฐาน 100 ค่อนข้างมาก โดยอยู่ที่ระดับ 75.0 – 90.8 และในอีก 3 เดือนข้างหน้า คาดการณ์ดัชนีความเชื่อมั่นด้านต้นทุนจะอยู่ที่ระดับ 80.6 – 95.8 ซึ่งแสดงถึงผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลด้านต้นทุนไม่ว่าจะเป็นต้นทุนจากการขยายกิจการ ต้นทุนในการดำเนินงาน รวมทั้งต้นทุนราคาน้ำมันและค่าขนส่ง ที่มีแนวโน้มการปรับตัวที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ดี จากการสำรวจความคิดเห็นถึงข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการ ในด้านภาวะเศรษฐกิจ ต้องการให้กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อให้มีการใช้จ่ายสูงขึ้นสำหรับผู้มีรายได้ระดับกลางถึงบน ผ่านมาตรการหรือนโยบายต่างๆ ฟื้นฟูภาคการค้า การส่งออก การแก้ไขปัญหาความยากจน กระจายการค้าการลงทุนสู่ภูมิภาค ดูแลค่าครองชีพให้เหมาะสมกับรายได้ของผู้บริโภคระดับกลางถึงล่าง การจัดสรรงบประมาณสู่ท้องถิ่น สร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองให้ประชาชนและ นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน

ด้านต้นทุน ต้องการให้ภาครัฐดูแลราคาสาธารณูปโภคให้มีความเหมาะสมกับต้นทุนของผู้ประกอบการ ดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ ควรมีมาตรการลดหย่อนภาษีช่วยเหลือทั้งภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน ต้องการให้ภาครัฐมีโครงการเงินกู้ให้ประชาชนพร้อมทั้งลดข้อกำหนดเพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่ายขึ้น มีแนวทางที่จะสนับสนุนแหล่งเงินทุนให้กับธุรกิจ พร้อมทั้งขยายช่องทางในการกู้ยืม/ลดดอกเบี้ยเงินกู้ ควรยกเลิกภาษีซ้ำซ้อนที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต ควบคุมด้านราคาเชื้อเพลิง การลดภาษีการนำเข้าและเน้นส่งเสริมการส่งออกมากขึ้น การลดดอกเบี้ย/ภาษี สำหรับรถยนต์ออกใหม่ การปรับค่าจ้างแรงงาน การปรับโครงสร้างหนี้/แก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้ประชาชน