ขนมครองแครง‘เล็กจนโต’ แกร่งอย่างสร้างสรรค์

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

จากธุรกิจครอบครัวที่ทำ “ขนมครองแครง” มาเป็นระยะเวลากว่า 60 ปี โดยเมื่อมีทายาทรุ่น 3 เข้ามาร่วมสืบทอดธุรกิจครอบครัว จึงเกิดเป็นความสร้างสรรค์สู่การสร้างแบรนด์ และขยายรสชาติขนมใหม่ๆ ทำให้ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น

“อภิณพร ทองดี” ผู้บริหารแบรนด์ ขนมครองแครง เล็กจนโต เปิดเผยว่า ได้ต่อยอดธุรกิจของครอบครัวที่ทำขนมครองแครงต่อเนื่องมากว่า 60 ปี มาสู่การสร้างแบรนด์ขนมครองแครงเล็กจนโต (lekjonto) เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงขนมที่มีรูปแบบธรรมดา มาสู่รูปแบบใหม่และมีรสชาติใหม่เพิ่มขึ้น พร้อมกับการสร้างแบรนด์และการจัดทำบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงสูตรดั้งเดิมของครอบครัวไว้

ขนมครองแครง ถือเป็นขนมไทย โดยคุณย่าได้สูตรมาจากในวัง พร้อมกับมีการปรับสูตรในสไตล์ของตนเองจนสำเร็จ จึงเริ่มทำตลาดสู่ลูกค้าตั้งแต่ปี 2496 ต่อมาสูตรมีการสืบทอดต่อเนื่องสู่รุ่นคุณพ่อ ที่ได้มีการขยายทำแป้งขนมครองแครงแบบใหม่ และมีสูตรที่อร่อยมากขึ้น ส่วนตนเองเป็นรุ่นสาม ซึ่งการสร้างชื่อแบรนด์ ใช้ชื่อว่า “เล็กจนโต” มาจากความผูกพันที่เราเกิดมาจนถึงโตก็อยู่กับขนมครองแครงมาตลอด

“ได้เข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัวเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมา โดยการทำขนมครองแครงของที่บ้าน มีเป็นเวลากว่า 60 ปีแล้ว จากรุ่นคุณย่า ต่อเนื่องสู่รุ่นคุณพ่อ ซึ่งเมื่อเข้ามาร่วมบริหาร ก็มีการพูดคุยกับครอบครัวและทำความเข้าใจ ซึ่งที่บ้านก็เปิดโอกาสให้ได้ทำ จึงผลักดันสู่การสร้างแบรนด์สู่ตลาด” อภิณพร กล่าว

ทั้งนี้ การปรับขนมครองแครงสู่แบบใหม่ ได้เข้าไปปรึกษากับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมได้แนะนำที่ปรึกษาเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัย ได้ให้คำแนะนำในการปรับผลิตภัณฑ์ใหม่ และสร้างสรรค์สินค้า รวมถึงการแนะนำสู่การเพิ่มรสชาติใหม่

“โดยได้เข้าไปปรึกษากับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทำให้ได้ที่ปรึกษาจากอาจารย์มหาวิทยาลัยมาร่วมให้คำแนะนำ จึงได้ขยายรสชาติใหม่และนำสินค้าไปร่วมงาน เอสเอ็มอี เอ็กซ์โป ออกบูธในงานครั้งแรกปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า สร้างยอดขายหมดอย่างรวดเร็ว ทำให้ครอบครัว คุณพ่อเห็นว่าลูกค้าสนใจขนมครองแครงรสชาติใหม่เพิ่มขึ้น” อภิณพร กล่าว

ขณะเดียวกัน ได้สร้างคาแรกเตอร์ผลิตภัณฑ์ให้มีความสนุกสนาน และมีความเป็นมิตรกับทุกคน โดยปัจจุบันแบรนด์มีขนมครองแครง 4 รสชาติหลัก ได้แก่ รสต้นตำรับ รสชีส รสสาหร่าย และรสลาบ ซึ่งล่าสุดได้เพิ่มรสชาติใหม่ ทั้งแซลมอน ต้มยำ และซาวร์ครีม

ทั้งนี้ จากการสร้างแบรนด์มีกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทได้ตัดสินใจสร้างโรงงานผลิตสินค้าแห่งที่ 2 แล้ว เพื่อรองรับการขยายกำลังผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น จากโรงงานแรกที่มีขนาดเล็ก อีกทั้งได้มุ่งให้ความสำคัญกับการทำวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) พร้อมกับการสร้างนวัตกรรมให้แก่สินค้า และมีการขยายทำตลาดผ่านออนไลน์ www.lekjonto.com

“อภิณพร” กล่าวต่อว่า บริษัทจะมุ่งพัฒนาธุรกิจขนมอย่างต่อเนื่อง และสนใจจะขยายขนมกลุ่มใหม่ เพื่อเพิ่มความหลากหลายในสินค้า รวมถึงผลักดันแบรนด์เล็กจนโต ไปสู่ลูกค้าในตลาดต่างประเทศ