posttoday

"Bangkok Tales" กระเป๋า โชคดี

11 สิงหาคม 2561

แบรนด์ "Bangkok Tales" ก่อตั้งโดยสองพี่น้อง "วรสินศิริ" ได้ขยายธุรกิจของครอบครัว

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

แบรนด์ "Bangkok Tales" ก่อตั้งโดยสองพี่น้อง "วรสินศิริ" ได้ขยายธุรกิจของครอบครัวที่ผลิตกระเป๋าหนังมายาวนาน สู่การสร้างแบรนด์ใหม่ ที่มีความสร้างสรรค์และครองใจลูกค้ากับ กระเป๋าผ้ากระสอบป่านที่มีความครีเอท และผสมความเป็นไทย

"รวิวรรณ วรสินศิริ" และ "อัฐภิญญา วรสินศิริ"  ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ "Bangkok Tales" เปิดเผยว่า แบรนด์ Bangkok Tales เปรียบเสมือนหนังสือ 1 เล่ม ที่จะบอกเล่าเรื่องราวความเป็นไทยในอดีต มานำเสนอผ่านกระเป๋า ที่มีเอกลักษณ์และความเป็นแฟชั่น จึงเริ่มจากการนำเสนอ "กระเป๋าโชคดี" ผลิตจากผ้ากระสอบป่าน ที่มาจากธรรมชาติ และเป็นออร์แกนิค เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย

แบรนด์ก่อตั้งโดยสองพี่น้อง "วรสินศิริ" มีความสนใจจะสร้างแบรนด์กระเป๋าขึ้นมาใหม่ จากธุรกิจครอบครัวที่ทำธุรกิจกระเป๋าหนังส่งออกมายาวนาน และทั้งคู่เป็นรุ่นสามของธุรกิจ โดยเมื่อสถานการณ์ของกระเป๋าหนังในตลาดส่งออกเปลี่ยนแปลงไปและชะลอตัวลง ทำให้ต้องผลักดันธุรกิจครอบครัวไปได้ต่อเนื่อง จึงเกิดเป็นแนวคิดการต่อยอดสิ่งที่มีอยู่ในครอบครัวคือการผลิตกระเป๋าที่มีความชำนาญ สู่การผลิตกระเป๋าแบรนด์ใหม่ รวมถึงต้องการนำเสนอ เอกลักษณ์ของความเป็นไทยสู่ "กระเป๋าโชคดี" ผลิตภัณฑ์แรกของแบรนด์

"กระเป๋าโชคดี" มาจากการนำผ้ากระสอบป่าน โดยเป็นผ้ามาจากธรรมชาติและไม่มีสารเคมี โดยเลือกผ้าที่มีคุณภาพสูงมาผลิตกระเป๋า และเลือกเป็นกระเป๋าโชคดี เนื่องจาก เป็นกระเป๋าที่มีความผูกผันกับคนในอดีตที่ทุกคนต่างรู้จัก รวมถึง ถุงโชคดีมีความหมายถึง เรื่องราวที่ดี การมีโชคดี และยังหมายถึง โอกาสที่เป็นไปได้

"Bangkok Tales" กระเป๋า โชคดี

"การผลิตกระเป๋าของแบรนด์ Bangkok Tales จะเป็นช่างในโรงงานของบริษัทเองที่มาผลิต โดยช่างจะเป็นช่างหนัง ที่มีประสบการณ์ในการทำกระเป๋าหนังมายาวนาน ซึ่งแบรนด์ต้องการนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพ การตัดเย็บที่ปราณีต" ทั้งคู่ กล่าว

ทั้งนี้ แบรนด์ได้เริ่มทำตลาดในงาน BIG+BIH ในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า และได้รับการติดต่อจากศูนย์การค้าและจากตัวแทนร้านค้าต่างๆ สั่งซื้อสินค้า อีกทั้งแบรนด์ได้มีการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ส่งผลทำให้ผลิตภัณฑ์มีลูกค้ารู้จักเพิ่มขึ้น โดยได้ทำแคมเปญผ่านช่องทางออนไลน์แก่กลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนราคาสินค้า จะเริ่มต้นที่ 89 บาทและ ราคาสูงสุดที่ 750 บาท

"จุดเด่นของแบรนด์คือ การมีความกลมกล่อม ทั้งวัสดุและราคาสินค้า โดยผลิตจากช่างฝีมือ และราคาสินค้าที่มีความเหมาะสม คุ้มค่าคุ้มราคา" รวิวรรณ และ อัฐภิญญา กล่าว

ในปัจจุบัน มีช่องทางจำหน่ายหลักได้แก่ 1.การเปิดชอปในศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 ที่ชั้น3 ในรูปแบบ ป็อปอัพสโตร์ 2.ตลาดนัดจตุจัตร โครงการ 18 ต่อมา การมีสินค้าอยู่ในร้าน FABLAB ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ มิวเซียมสยาม 5เพลินวาน หัวหิน และ ซิเคด้า มาร์เก็ต หัวหิน ซึ่งเร็วๆ นี้จะมีสินค้าจำหน่ายในพื้นที่ อีโคโทเปีย (Ecotopia) ของ ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่

ลูกค้า จะเป็น ลูกค้าคนไทย 80% และลูกค้าต่างชาติ 20% ซึ่งลูกค้าคนไทย จะมีทั้งลูกค้าที่ชื่นชอบสินค้าแฟชั่น และกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่รู้จักถุงโชคดีอยู่แล้ว ส่วนลูกค้าต่างชาติ จะมีทั้งจากประเทศญี่ปุ่น ประเทศจีน และหลายประเทศจากยุโรป ซึ่งเป็นลูกค้าที่ชื่นชอบสินค้าจากธรรมชาติ ซึ่งแบรนด์ มีการส่งออกไปต่างประเทศ ทั้งในยุโรปและญี่ปุ่น

พร้อมกันนี้ "Bangkok Tales" เตรียมจะขยายสู่ การทำกระเป๋า ผลิตภัณฑ์ต่อไป จะผลิตจากผ้าขาวม้าของประเทศไทย และมีถ้อยคำ ที่เป็นถ้อยคำคล้ายๆ กับสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่บนรถบรรทุก โดยคาดว่าจะนำเปิดตัวสู่ตลาดได้ในเร็วๆ นี้ เพื่อนำเสนอกระเป๋าที่สื่อถึงความเป็นไทยสู่กระเป๋าผ้าขาวม้าแบบใหม่ และเป็นโครงการที่ได้ทำร่วมกับ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT

"อัฐภิญญา และ "รวิวรรณ" กล่าวต่อว่า จะผลักดันแบรนด์ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การนำเสนอสินค้าแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์และมีความเป็นไทย รวมถึงได้วางเป้าหมายจะทำให้ "Bangkok Tales" เป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจลูกค้าและเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ลูกค้าต่างชาติจะเลือกซื้อเมื่อเดินทางมาในประเทศไทย

"Bangkok Tales" กระเป๋า โชคดี