posttoday

กสอ.พาเอสเอ็มอีไทยลุยจีน

10 เมษายน 2561

กสอ.พาเอสเอ็มอีไทยลุยจีน เน้นสินค้าออแกนิค-เครื่องสำอางเพิ่มช่องสู่ตลาดโลก

กสอ.พาเอสเอ็มอีไทยลุยจีน เน้นสินค้าออแกนิค-เครื่องสำอางเพิ่มช่องสู่ตลาดโลก

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้พาคณะผู้ประกอบการเกษตรแปรรูปไทยบุกตลาดอุตสาหอาหารปลอดภัย และอาหารอินทรีย์ของจีน เข้าร่วมงานแสดงสินค้า “The China International Organic and Green Food Industry Expo 2018 ครั้งที่ 22” ณ ศูนย์นิทรรศการนานาชาติ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน    

นายกอบชัย กล่าวว่า ระหว่างวันที่  8 - 10 เม.ย. 2561 ได้นำผู้ประกอบการด้านเกษตรแปรรูป จำนวน 10 ราย เดินทางไปร่วมงานดังกล่าว เพื่อสร้างโอกาสและขยายช่องทางตลาดธุรกิจ ให้กับผู้ประกอบการไทยที่มีสินค้าเกี่ยวข้องกับเกษตรแปรรูปที่เน้นอินทรีย์ โดยผู้ประกอบการไทยที่ไปร่วมจัดแสดงและเจรจาธุรกิจภายในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของผู้ประกอบการในกิจกรรมการสร้างเครือข่ายอุตสาหกรรมเป้าหมายและการสร้างโอกาสขยายช่องทางธุรกิจเกษตรแปรรูปปีงบประมาณ 2561 เป็นผู้ประกอบการที่ผลิตเครื่องสำอางค์ ซึ่งเป็นกลุ่มเตรียมความพร้อมเข้าสู่เครือข่ายเครื่องสำอางอินทรีย์

ทั้งนี้ ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวมีความประสงค์ เพื่อสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ SMEs หรือวิสาหกิจชุมชน และได้มีการแลกเปลี่ยนถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งมีการดำเนินกิจกรรมระหว่างกันส่งผลให้เกิดการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมในกลุ่มเครือข่ายจนสามารถแข่งขันในตลาดสากลได้

“เมื่อพูดถึงอุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูปในประเทศจีนแล้ว ถือว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีความต้องการบริโภคสูง ประกอบกับภาคเกษตรกรรมและพื้นที่ทางการเกษตรของจีนมีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็วในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ส่งผลต่อการพัฒนารูปแบบอุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูปของจีน ทั้งด้านกำลังซื้อและการบริโภค โดยคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตเฉลี่ย 9.4% ต่อปี ขณะที่การบริโภคอาหารต่อคนมีการเติบโตเฉลี่ย 8.8% ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนประชากรที่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างหนาแน่นและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป โดยผู้บริโภคมักนิยมรับประทานอาหารที่สะดวกและใช้เวลารวดเร็วมากขึ้น"นายกอบชัย ระบุ

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มดังกล่าวแล้ว นับเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยที่จะสามารถเข้าไปทำตลาดในจีนได้ ด้วยจุดแข็งของผู้ประกอบการไทยที่มีความเชี่ยวชาญและมีความพร้อมในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์ม น้ำตาล ยางพารา เป็นต้น

นอกจากนี้ ไทยยังมีจุดเด่นในด้านธุรกิจแปรรูปอาหารด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมการผลิตและคุณภาพที่ได้มาตรฐาน สอดคล้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของจีน ภายใต้ยุทธศาสตร์ Made in China 2025 ที่ต้องการปรับเปลี่ยนบทบาทจากการ เป็นโรงงานของโลก (Factory of the World) มาเป็นประเทศที่เน้นการสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าของจีนและทำให้มีตลาดใหญ่ขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการไทยเองก็ควรเร่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของตนเองเช่นกัน โดยการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อให้สามารถเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตแห่งอนาคตของจีนต่อไปในอนาคต

อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวด้วยว่า นอกเหนือจากการเล็งเห็นความสำคัญในการนำสินค้าด้านเกษตรแปรรูป สินค้าอินทรีย์ (Organic Products) และเครื่องสำอาง (Cosmetics) ไปเปิดตลาดสากลแล้ว กสอ. ยังคำนึงถึงการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการ  โดยมีแนวทางในการส่งเสริมและสนับสนุน คือ 1. การส่งเสริมระบบการจัดการที่ดี เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปนำระบบการจัดการที่ดีมาใช้เป็นตัวขับเคลื่อนองค์กรให้มีประสิทธิภาพ 2. การส่งเสริมให้กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปมีระบบการผลิตสินค้าที่มีมาตรฐานการผลิต เพื่อเพิ่มโอกาสและความพร้อมในการขยายตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้ตรงกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ และ 3. การส่งเสริมด้านการตลาดสากลที่ กสอ. ส่งเสริมและสนับสนุน ให้กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปมีช่องทางการตลาด ทั้งในระดับอาเซียนและระดับโลก โดยเน้นจุดขายด้านความน่าเชื่อถือในมาตรฐานสินค้าของไทย

ทั้งนี้ ซึ่งในปัจจุบันความรู้ความก้าวหน้าในด้านการแปรรูปผลิตผลในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและเกษตรอินทรีย์แปรรูปมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและกระบวนการแปรรูปสินค้าเกษตรเป็นสำคัญ ทำให้ในปัจจุบันการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพจะมีผลอย่างมากต่อการกำหนดราคาและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพื่อก่อให้เกิดระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพทำให้ต้นทุนของสินค้าต่ำลง ขณะที่คุณภาพของสินค้าต้องได้รับการปรับปรุงให้เป็นที่น่าเชื่อถือมากขึ้น ถึงจะสามารถส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการของไทยมีโอกาสในการเปิดตลาดสู่สากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับงานแสดงสินค้า“The China International Organic and Green Food Industry Expo 2018  ครั้งที่ 22” จัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการนานาชาติ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 8 – 10 เมษายน 2561 ซึ่งถือเป็นนิทรรศการงานแสดงสินค้าที่สำคัญในสาขาสุขภาพแห่งชาติ และยังเป็นงานนิทรรศการแสดงสินค้า ด้านอุตสาหกรรมอาหารอินทรีย์และอุตสาหกรรมอาหารของจีน โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นมาแล้ว 21 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 22 โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศกว่า 1,200 ราย จากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น รัสเซีย มาเลเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เม็กซิโก โปแลนด์ ชิลี คิวบา อุซเบกิสถาน คาซัคสถาน ยูเครน สเปน เยอรมนี อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ และมีผู้เข้าชมงานกว่า 40,000 ราย โดยงานดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเห็นถึงกระบวนการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารอินทรีย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยังเป็นการแสดงศักยภาพ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมอีกด้วย โดยนิทรรศการมีรูปแบบเป็นพาวิลเลี่ยนแสดงสินค้า เช่น สินค้าเกษตรอินทรีย์และอาหารอินทรีย์ : ข้าวอินทรีย์และธัญพืชผักและผลไม้ วัตถุดิบอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์จากนมอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลอินทรีย์ อาหารเด็กอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ ขนมขบเคี้ยวอินทรีย์ เครื่องปรุงรสอินทรีย์ : สมุนไพรเครื่องเทศธรรมชาติ สมุนไพรอินทรีย์จำพวก โสม หญ้าฝรั่น  เมล็ดมะรุม สมุนไพรอินทรีย์อื่น ๆ รวมทั้งเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อความงามส่วนบุคคล และเส้นใยธรรมชาติและผลิตภัณฑ์สิ่งทอ เป็นต้น