‘O-Farm’ ผักสลัดอินทรีย์ ทุเรียนนนท์

โดย วราภรณ์ เทียนเงิน

“O-Farm” ฟาร์มการเกษตรอินทรีย์ที่ปลูกผักอย่างครบวงจร ทั้งผักสวนครัว ผักสลัด และผักตามฤดูกาล พร้อมกับกำลังฟื้นฟูการปลูกทุเรียน จ.นนทบุรี แบบอินทรีย์ให้กลับมาอีกครั้ง เพื่อสร้างผลผลิตฟาร์มที่มีคุณภาพแก่ลูกค้า

“กันตพงษ์ แก้วกมล” ผู้ก่อตั้งฟาร์ม โอ-ฟาร์ม (O-Farm) ที่ จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า ตนเองเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของครอบครัวที่ทำการเกษตร เริ่มตั้งแต่คุณปู่และคุณย่าที่ทำสวนและปลูกผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนนนทบุรีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยตนเองเป็นรุ่นสาม ซึ่งมีความสนใจในด้านการเกษตร ทำให้มาต่อยอดทำสวนของครอบครัวและทำฟาร์มออร์แกนิก

การเริ่มต้นสร้าง โอ-ฟาร์ม ได้มีการศึกษาข้อมูล ทฤษฎีทุกอย่างไปพร้อมกัน และค่อยเริ่มทำ โดยมีการปลูกผักสวนครัว ผักสดตามฤดูกาล และทุเรียน โดยได้ปลูกทุเรียนเป็นระยะเวลา 7 ปีก็ประสบปัญหา จ.นนทบุรี เกิดน้ำท่วม กระทบต่อทุเรียนที่ปลูกถูกน้ำท่วมทั้งหมด จึงเกิดเป็นแนวคิดต้องการต่อยอดและหาความรู้เพิ่มเติมในการทำการเกษตร ทำให้ตัดสินใจไปเรียนต่อในระดับปริญญาโท ในคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาการจัดการเกษตรอินทรีย์

สำหรับพื้นที่ของฟาร์มมีอยู่ 6 ไร่ จะแบ่งพื้นที่ทั้งการทำบ่อปลาที่เลี้ยงปลานิล การปลูกผัก และการทำโรงเรือนเพื่อปลูกผักแนวตั้ง โดยจะเป็นผักสลัดที่ปลูกเป็นแนวตั้ง 6 ชั้น และมีการปลูกทุเรียนรอบใหม่ ซึ่งได้ปลูกทุเรียนมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว ซึ่งทุเรียนจะต้องใช้เวลาในการปลูกประมาณ 7 ปี ก่อนที่จะได้ผลผลิต

การปลูกทุเรียนรอบใหม่ จึงได้วางแผนและศึกษาข้อมูล รวมถึงเป็นหัวข้อในการทำวิทยานิพนธ์ และได้ทดลองปลูกทุเรียนในวงบ่อ พร้อมกับศึกษาข้อมูลเรื่องปัญหาพื้นที่ดินเค็มใน จ.นนทบุรี ที่มีผลต่อการปลูก สำหรับสายพันธุ์ที่ปลูกจะเป็นหมอนทองและก้านยาว ซึ่งผู้ปลูกจะต้องเข้าใจระบบนิเวศของทุเรียน ทั้งสภาพอากาศ ความชื้น น้ำและดิน ซึ่งพื้นที่ปลูกทุเรียนที่มีความเหมาะสม ควรเป็นพื้นที่ที่มีความชื้นและการดูแลรักษาหน้าดินให้มีความเหมาะสม

พร้อมกันนี้ การดูแลจัดการฟาร์ม ได้มีการเลี้ยงแกะไว้ในฟาร์มจำนวนรวม 6 ตัวแล้ว โดยเป็นแกะสายพันธุ์ดอร์เปอร์ ซึ่งการเลี้ยงแกะเพื่อต้องการให้ดูแลจัดการวัชพืชในฟาร์ม

ผลผลิตของ โอ-ฟาร์ม ในปัจจุบัน จะมีทั้งผักสลัด มะเขือเทศ และเมลอน ที่เป็นออร์แกนิกทั้งหมด ผักสวนครัว โดยมีช่องทางจำหน่ายหลัก ผ่านการนำไปเปิดร้านที่ใต้อาคารคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งผักของฟาร์มจะมีความสดและกรอบ จึงได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

“กันตพงษ์” กล่าวต่อว่า ฟาร์มยังมีการรวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตรทั้งแบบเก่าและแบบใหม่ อาทิ เครื่องจักรโบราณ เครื่องวิดน้ำโบราณ และเครื่องมือทางการเกษตรแบบใหม่ ที่ตนเองสนใจในเรื่องนี้ เพื่อนำเสนอและรวบรวมองค์ความรู้ในการทำการเกษตรไว้ทั้งหมด ปัจจุบันพื้นที่ฟาร์มก็มีกลุ่มนักศึกษาสนใจเข้ามาเรียนรู้และศึกษาดูงานในฟาร์มอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน จากการที่ตนเองสนใจและศึกษาข้อมูลในการทำเกษตรอย่างไม่หยุดนิ่ง ทำให้ได้รับการคัดเลือกสู่ประธานกลุ่ม “Young Smart Farmer Thailand” เพื่อส่งเสริมการรวมกลุ่มและสร้างเครือข่ายการเกษตรของผู้ประกอบการเกษตรรุ่นใหม่ที่มีความเข้มแข็ง