Globish สอนภาษาออนไลน์

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

ถือเป็นสตาร์ทอัพที่ต้องการเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้แก่คนไทยในเรื่องการ เรียนภาษาอังกฤษกับ Globish ที่เปิดคอร์สสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ จากครูต่างประเทศ ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษ กลายเป็นการเรียนแบบใหม่ และเลือกเรียนได้ตามแบบที่ต้องการ

“ชื่นชีวัน วงษ์เสรี” ผู้ร่วมก่อตั้ง โกลบิช (Globish) เปิดเผยว่า โกลบิช ก่อตั้งโดย “ธกานต์ อานันโทไทย” และตนเอง โดย โกลบิช การสอนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบใหม่ ทำให้คนไทยสามารถเข้ามาจองเรียนผ่าน เว็บไซต์ออนไลน์คือ www.globish.co.th สามารถเลือกคอร์สที่ต้องการเรียนได้อย่างหลากหลาย ซึ่งจะได้เรียนโดยตรงผ่านออนไลน์กับครูชาวต่างชาติ รวมถึงเลือกเวลาที่เลือกได้เอง และปรับเปลี่ยนเวลาเรียนได้ตามความสะดวก

ขณะเดียวกัน ระบบจะมีการคัดกรอง เลือกคุณครูที่มาสอนภาษาอังกฤษ ที่จะต้องเลือกครูที่เปิดสอนภาษาอังกฤษมาก่อน ทำให้สามารถที่จะเข้าใจและสอนได้อย่างดี ตรงกับความต้องการของผู้เรียน รวมถึงครูสอนภาษาอังกฤษจะต้องอยู่ในต่างประเทศเท่านั้น

กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาเรียน มีความหลากหลาย ตั้งแต่อายุเด็ก ไปจนถึง วัยรุ่น คนทำงาน อายุผู้ใหญ่ จนถึง 60 ปี หรือแล้วแต่กลุ่มที่ต้องการมาเรียน โดยผู้ที่สนใจเข้ามาเรียนจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา จะเป็นกลุ่มทำงาน ทั้งโปรแกรมเมอร์ ไอที วิศวกร เพราะต้องใช้ภาษาในการทำงาน และมีความจำเป็นระดับสูง ซึ่งคนที่เรียนจบหลักสูตรไปแล้ว ต่างให้การตอบรับในระดับที่ดี อีกทั้งพบว่า ความต้องการเรียนภาษาอังกฤษมีสูงมาก มีหลากหลาย รวมถึงมีคนไทยที่อยู่ต่างประเทศมาสมัครเรียนผ่าน โกลบิช เช่นกัน

“ชื่นชีวัน” กล่าวต่อว่า โกลบิช ถือว่าเป็น สตาร์ทอัพด้านการศึกษา หรือ เอ็ดเทค (Edtech) ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการศึกษาและการเรียนรู้ ที่ในประเทศไทยอาจจะมีสตาร์ทอัพที่เกี่ยวกับการศึกษาไม่มากนัก และตลาดโลก สตาร์ทอัพด้านเอ็ดเทค จะขยายตัวประมาณ 10% ต่อปี ถือว่าโตไม่หวือหวา และบริษัทเติบโตช่วงที่ผ่านมา ประมาณมากกว่า 30% แต่การเข้ามาเลือกทำสตาร์ทอัพด้านการศึกษา มาจากใจรักและความชอบเรื่องนี้

ทั้งคู่ได้มาร่วมสตาร์ทอัพร่วมกัน มาจากระหว่างที่ได้ไปเข้าค่ายผู้นำนักศึกษามหาวิทยาลัย โดยตนเองได้จบการศึกษาเอกธุรกิจระหว่างประเทศ การขนส่ง และโลจิสติกส์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส่วน “ธกานต์” จบการศึกษาสาขาภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และเป็นอดีตประธานองค์กรแลกเปลี่ยนนักศึกษาระดับโลก AIESEC โดยทั้งคู่ต่างสนใจการทำธุรกิจและอยากทำธุรกิจเพื่อสังคม มีแนวคิดเดียวกัน

ระหว่างนั้น “ธกานต์” ได้พบกับผู้บริหารญี่ปุ่นได้เสนอแนวทางไอเดียเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่มีความน่าสนใจ และ “ธกานต์” ได้ชวนให้ตนเองได้เข้ามาทำด้วยกัน โดยนักลงทุนชาวญี่ปุ่นคือ “มาซาฮิโระ ซากาตะ” ที่ทำธุรกิจและชื่นชอบประเทศไทยอย่างมาก รวมถึงอยู่ประเทศไทยมาหลายปี ต้องการช่วยส่งเสริมและพัฒนาประเทศไทย โดย “มาซาฮิโระ ซากาตะ” ถือเป็นนักลงทุนรายแรกในบริษัทพร้อมสนับสนุนเงินลงทุน

ทั้ง “ธกานต์” และ “ชื่นชีวัน” จึงมีแนวคิดต่อยอดสู่สตาร์ทอัพการศึกษา ทั้งคู่อยากให้คนไทยพูดภาษาอังกฤษได้ จะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และมีคุณค่าอย่างมาก โดยปรับแนวคิดจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีการเปิดสอนภาษาออนไลน์เช่นกัน แต่ของ โกลบิช จะมีครูจากหลากหลายประเทศ และให้เรียนผ่านออนไลน์ ไม่ได้เรียนผ่านสไกป์เหมือนของประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มทำผลิตภัณฑ์ได้ไปสัมภาษณ์คนที่สนใจเรียนภาษาอังกฤษกว่า 80 คน ซึ่งปัจจุบัน บริษัทจากญี่ปุ่น ที่ทำด้านสอนภาษาอังกฤษออนไลน์สร้างธุรกิจเติบโตและเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นแล้ว รวมถึงได้ให้คำแนะนำแก่ โกลบิช เช่นกัน

“ช่วงแรก ผลิตภัณฑ์เจาะลูกค้านักเรียน นักศึกษา แต่ไม่ตอบโจทย์ตลาด ที่คนต้องการเรียนภาษาอังกฤษมีหลากหลาย และมีกลุ่มวัยทำงาน รวมถึงความต้องการแต่ละคนไม่เหมือนกัน ในช่วงแรกที่ไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งคู่ก็ไม่หยุดนิ่ง มีความเชื่อมั่นว่า สิ่งที่ทำจะต้องมีคุณค่าและตลาด กลุ่มลูกค้าแน่นอน จึงได้พัฒนาต่อเนื่อง ทำให้หาลูกค้าได้ตรงจุด” ชื่นชีวัน กล่าว

ขณะเดียวกันเราทั้งคู่ไม่มีการหยุดนิ่ง พร้อมนำทุกความคิดเห็นมาพัฒนา เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีแก่ลูกค้า ตรงกับตลาด ทำให้พบกับกลุ่มลูกค้า และนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ตรงกับความต้องการ ซึ่งแต่ละหลักสูตร (คอร์ส) จะมีความหลากหลาย และเหมาะกับคนที่จะนำไปใช้จริงๆ ทำให้บริษัทเติบโตและมีกลุ่มนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง

“ในปีที่แล้ว 2559 โกลบิชได้รับเงินลงทุนจากนักลงทุน และพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ 3 รายคือ จากรายการเสือติดปีก โดย คุณตัน ภาสกรนที และคุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม คุณธีรัส บุญหลง บริษัท บุญ เวนเจอร์ส และคุณชัยพนธ์ ชวาลวณิชชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์” ชื่นชีวัน กล่าว

ปัจจุบัน มีทีมงานในองค์กรรวม 37 คน ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเรียนจบ จากช่วงแรกประมาณ 2-3 ปีเริ่มต้นเพียงสองคน ทุกคนในทีมมีแนวคิดเดียวกัน คืออยากให้คนไทยพูดภาษาอังกฤษได้ ทุกคน ทีมงานมีความสนุกและมีความสุขในการทำงาน

“การทำสตาร์ทอัพ จะต้องมีใจรัก มีความอดทน มีความสามารถปรับตัวสูงอย่างมาก ไม่มีการหยุดนิ่ง กล้าทำในสิ่งที่คนอื่นๆ ไม่ทำ และผลักดันองค์กรเติบโตต่อเนื่อง” ชื่นชีวัน กล่าว

เป้าหมายต่อไป จะขยายตลาดทั้งการเปิดให้เรียนผ่านทั้งแอพพลิเคชั่น การเปิดเป็น อี-เลิร์นนิ่งให้แก่ผู้สนใจ รวมถึงเปิดให้เรียนแบบกลุ่มพร้อมกัน พร้อมเพิ่มขยายคอร์สใหม่ เช่น เจาะกลุ่มแม่และลูกที่เรียน พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ขณะเดียวกันบริษัทก็มีโครงการเพื่อสังคมในหลายด้าน เพื่อทำให้สังคมไทยเติบโตไปพร้อมกัน

ต่อไปสนใจขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน ในระยะแรกจะขยายตลาดทั้งใน เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยจะหาพันธมิตรในแต่ละประเทศ จากความต้องเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์มีระดับสูง ส่วนระยะยาวจะนำบริษัทเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้น พร้อมมีเป้าหมายจะเป็นผู้นำในตลาดเรียนภาษาออนไลน์ในประเทศไทย รวมถึงติดอันดับหนึ่งในสามของประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย