‘วิธิตา’ ต่อยอดขายหัวเราะ สู่คาแรกเตอร์ ไลน์

โดย...ชลธิชา ภัทรสิริวรกุล

ในยุค 4จี ที่โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันมาก ส่งผลให้หลายๆ ธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันกับกระแสโลกที่เปลี่ยนไป เช่นเดียวกับ “วิธิตา” ที่แตกหน่อต่อยอดออกมาจากธุรกิจหนังสือการ์ตูน “ขายหัวเราะ” ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี

สันติ เลาหบูรณะกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิธิตา แอนิเมชั่น ฉายภาพให้เห็นถึงการเติบโตของตลาดไลน์สติ๊กเกอร์ในปัจจุบันว่า เป็นตลาดที่มีความน่าสนใจและน่าจับตามองเป็นพิเศษ เพราะมีการเติบโตมากถึงปีละ 20% โดยมีตัวเลขที่ทางไลน์แถลงออกมาว่า ในปีที่ผ่านมามีการดาว์นโหลดมากถึง 500 ล้านโหลด เป็นตัวตอกย้ำ

“ตลาดสติ๊กเกอร์ไลน์ที่น่าสนใจตอนนี้ จะเป็นตลาดในฝั่งของคาแรกเตอร์ สติ๊กเกอร์ ที่เติบโตถึง 50% นั่นเพราะปัจจุบันไลน์เป็นเครื่องมือในการสื่อสารในชีวิตประจำวันและเป็นช่องทางการตลาดที่เข้าตรงถึงตัวผู้บริโภค จึงทำให้สินค้าและบริษัทต่างๆ หันมาทำการตลาดผ่านสติ๊กเกอร์ไลน์ของตัวเอง ซึ่งจุดนี้เป็นโอกาสของนักออกแบบคาแรกเตอร์ของไทยในการสร้างสรรค์งานออกแบบต่อยอดออกไปยังตลาดต่างประเทศ” สันติ ระบุ

ปัจจุบันมีลูกค้าที่ให้วิธิตาออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ให้แล้วมากกว่า 20 แบรนด์ ทั้งกลุ่มธนาคาร ค่าปลีก ความงาม การเงิน และบันเทิง รวมกว่า 100 ชุด

สันติ บอกว่า ธุรกิจออกแบบคาแรกเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นแอนิเมชั่นหรือสติ๊กเกอร์ไลน์ ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งในยุคของข้อมูลดิจิทัลนี้ จึงเป็นโอกาสทองและช่องว่างของนักออกแบบคาแรกเตอร์ไทยที่จะใช้พื้นที่นี้เป็นเวทีในการแสดงผลงานให้เห็นและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง และในอนาคตอาจจะเป็นโอกาสในการออกไปยังตลาดต่างประเทศได้เช่นกัน

สำหรับวิธิตาเองเติบโตและเป็นที่รู้จักจากการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง “ปังปอนด์” ที่ต่อยอดมาจากคาแรกเตอร์การ์ตูนที่ประสบความสำเร็จมาก เนื่องจากมีการซื้อลิขสิทธิ์ไปออกอากาศในหลายประเทศ นอกจากนี้ วิธิตายังขยับมาจับตลาดงานออกแบบคาแรกเตอร์การ์ตูนและรับทำงานแอนิเมชั่นครบวงจร

“มองว่าในช่วง 2-3 ปีนี้ ตลาดสติ๊กเกอร์ไลน์จะยังเติบโตในระดับปีละ 20% อยู่ ซึ่งเป็นการเติบโตตาม Officecial Account แต่ทั้งนี้ก็ยังมีหลายปัจจัย และเป็นความท้าทายที่ต้องจับตาดูว่าในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้เปลี่ยนเร็วทำให้อนาคตอาจจะมีแฟลตฟอร์มรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาแทนที่” สันติ กล่าว

อย่างไรก็ดี วิธิตายังตอกย้ำความเป็นผู้นำในกลุ่มผู้ให้บริการออกแบบสร้างสรรค์คาแรกเตอร์การ์ตูนในไทย ด้วยการออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ร่วมกับดิสนีย์ให้เป็นลายเส้นเฉพาะประเทศไทย ในชุด Tsum Tsum ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของนักออกแบบคาแรกเตอร์ไทยที่จะก้าวสู่เวทีนักออกแบบคาแรกเตอร์ระดับโลก

สันติ กล่าวว่า วิธิตาได้เล็งขยายตลาดออกไปต่างประเทศด้วยเช่นกัน แต่เบื้องต้นอาจจะนำร่องในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านซีแอลเอ็มวีก่อน เพราะมีความใกล้ชิดกับไทย ทำให้มีความเข้าใจ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง จึงทำให้ผู้บริโภคพร้อมที่จะเปิดกว้างรับเทคโนโลยีและสินค้าสมัยใหม่ โดยมองไปที่ตลาดเมียนมาและเวียดนาม เพราะมีศักยภาพ

“ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและสำรวจเพื่อหาพันธมิตรในต่างประเทศ เพื่อมาทำงานร่วมกัน (Co_Production Content) เพื่อขยายงานกลุ่มออนไลน์คอนเทนต์ไปต่างประเทศ คาดว่า ภายใน 1-2 ปีนี้น่าจะเห็นงานด้านแอนิเมชั่นลายเส้นไทยในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้เริ่มมีลูกค้าเพื่อนบ้านมาจ้างบริษัททำงานแอนิเมชั่นให้” สันติ กล่าว

สันติ กล่าวว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า วิธิตาจะมีรายได้รวมทะลุ 100 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายที่จะพางานแอนิเมชั่นไทยไปตลาดต่างประเทศ ด้วยการขยายธุรกิจคอนเทนต์ให้มีความสากลมากขึ้น จนสามารถก้าวจากตลาดในประเทศออกไปสู่ระดับภูมิภาค รวมทั้งโกอินเตอร์ไปถึงตลาดยุโรปและสหรัฐให้ได้