posttoday

Active Coating ลดกลิ่นทุเรียนส่งออก

26 พฤษภาคม 2560

“ทุเรียน” ถือเป็นผลไม้เศรษฐกิจ สำคัญอันดับ 1 ของไทย จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ราชาผลไม้ เนื่องจากมีมูลค่าการส่งออกผลทุเรียนสดสูงขึ้นในทุกๆ ปี

โดย...เบ็ญจวรรณ รัตนวิจิตร

“ทุเรียน” ถือเป็นผลไม้เศรษฐกิจ สำคัญอันดับ 1 ของไทย จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ราชาผลไม้ เนื่องจากมีมูลค่าการส่งออกผลทุเรียนสดสูงขึ้นในทุกๆ ปี ล่าสุด ข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร รายงานว่า ในปี 2559 มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 17,468 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปีที่ผ่านมา 31.87% โดยเฉพาะทุเรียนหมอนทองที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน

ขณะเดียวกัน เกษตรกรในหลายพื้นที่ยังคงประสบปัญหาสำคัญในการส่งออก คือ กลิ่นไม่พึงประสงค์ของผลทุเรียนเมื่อสุก และผลแตกขณะขนส่งหรือวางจำหน่าย ณ ประเทศปลายทาง ซึ่งในแง่ของมาตรฐานสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออกนั้น ผลทุเรียนจะต้องได้ทรงมาตรฐาน อยู่ในสภาพสมบูรณ์ รวมถึงได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP และ GAP เป็นต้น

คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ชูนวัตกรรมเกษตรสร้างชาติ “ลดกลิ่น-ลดการแตกผลทุเรียนสด” ด้วยเทคนิค Active Coating ที่สามารถชะลอการสุกของผลทุเรียนแก่ ขณะขนส่งได้นานถึง 2 สัปดาห์ และจะสุกพร้อมวางขายได้ทันทีเมื่อถึงปลายทาง อีกทั้งยังต่ออายุการเก็บรักษา (Shelf Life) ได้เท่าตัว มุ่งขจัดปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ของผลทุเรียนเมื่อสุก และปัญหาผลแตกขณะขนส่งหรือส่งออกต่างประเทศได้ 100%

วรภัทร ลัคนทินวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์เพื่อการวิจัยขั้นสูง และอาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. เปิดเผยว่า นวัตกรรมการเคลือบผลทุเรียนสดด้วยเทคนิค Active Coating ภายใต้การดูแล Senior Project ของ ประกาสิทธิ์ ชุ่มชื่น นักศึกษาปริญญาตรี ซึ่งใช้เวลาศึกษาถึง 2 ปี

นวัตกรรมดังกล่าวเป็นการประยุกต์ใช้องค์ความรู้เทคโนโลยีทางการเกษตร สู่การพัฒนาวัสดุห่อหุ้มผลทุเรียน (Active Coating) ใน 2 ขั้นตอน คือ 1.ขั้นเตรียม Active Coating นำส่วนประกอบสำคัญ 3 ชนิด อันได้แก่ เส้นใยธรรมชาติ (Fiber) ที่ผ่านการตัดแปลงโครงสร้าง และผงถ่านกัมมันต์ (Active Carbon) ผสมรวมตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อดูดซับกลิ่นของทุเรียน แก๊สเอทิลีน และกลิ่นไม่พึงประสงค์อื่นๆ ที่มีซัลเฟอร์เป็นองค์ประกอบ อาทิ Dimethyl disulfide (DMDS) และ Dimethyl trisulfide (DMTS) ฯลฯ

2.ขั้นเคลือบผิวทุเรียน-นำผลทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่มีอายุประมาณ 110+5 วัน หลังดอกบาน จุ่มลงในเส้นใยให้ติดทั่วทั้งผล โดยที่เปลือกของทุเรียนจะมีความหนาขึ้นประมาณ 2-3 มิลลิเมตร เพื่อเป็นการป้องกันเปลือกทุเรียนแตกระหว่างทาง จากนั้นจึงนำไปบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์พิเศษ พร้อมวิเคราะห์สารประกอบกลิ่น ซึ่งเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 23-27 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ที่ 55-65%

“นวัตกรรมดังกล่าวมีต้นทุนเฉลี่ย 2-3 บาท/ผล ช่วยให้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนเลือกตัดผลทุเรียนแก่เพิ่มขึ้นเพื่อการส่งออก แทนผลอ่อนที่เมื่อไปถึงปลายทางไม่มีคุณภาพการบริโภค หรือไม่สุกตามปกติ หรือเกิดปัญหาผลแตกเมื่อถึงปลายทาง เพื่อเพิ่มศักยภาพการส่งออกทุเรียนของเกษตรกรไทย ให้สามารถก้าวสู่ตลาดในระดับพรีเมียมได้มากยิ่งขึ้น” วรภัทร กล่าว