posttoday

'ซีพีเอฟ' มุ่งครัวโลก ทุ่มวิจัยฯผลิตอาหารแห่งอนาคต ไก่ปลอดฮอร์โมน-โปรตีนจากพืช

04 กรกฎาคม 2562

ชู ‘ไทย’ ธุรกิจครบวงจร ฟาร์ม-ฟีด-ฟู้ด ต้นแบบการดำเนินกิจการใน 16 สาขาต่างประเทศ เป้า 5 ปี รายได้ทั่วโลกแตะ 8 แสนล้านบาท

ชู ‘ไทย’ธุรกิจครบวงจร ฟาร์ม-ฟีด-ฟู้ด ต้นแบบการดำเนินกิจการใน 16 สาขาต่างประเทศ เป้า 5 ปี รายได้ทั่วโลกแตะ 8 แสนล้านบาท

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจมุ่งสู่ครัวโลก โดยจะใช้กลุ่มธุรกิจอาหาร(ฟู้ด) เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก จากในยุคที่ผ่านมาเป็นการดำเนินธุรกิจในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (ฟีด) และการเลี้ยงสัตว์ (ฟาร์ม) พร้อมนำเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ดิจิทัล เข้ามามีส่วนร่วมบริหารจัดการองค์กร ทั้งสาขาบริษัทในประเทศไทย และ อีก 16 สาขาสำนักงานในต่างประเทศ ทั่วโลก

'ซีพีเอฟ' มุ่งครัวโลก ทุ่มวิจัยฯผลิตอาหารแห่งอนาคต ไก่ปลอดฮอร์โมน-โปรตีนจากพืช ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ

โดยในปี 2562 บริษัทฯ เตรียมงบลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท (ไม่รวมงบฯการเข้าซื้อกิจการ) มุ่งให้ความสำคัญการลงทุนในตลาด 2 ประเทศหลัก คือ จีน ดำเนินการก่อสร้างโรงงานอาหารสัตว์ และในประเทศเวียดนาม ลงทุนในกลุ่มผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง ไก่ กุ้ง และปลา เพื่อเตรียมความพร้อมส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ไปยังต่างประเทศ ได้ตามแผนที่วางไว้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

สำหรับแนวทางการมุ่งสู่ครัวโลก ในเบื้องต้น ซีพีเอฟ จะใช้ประเทศไทย ซึ่งเป็นกิจการที่มีความครบวงจรในการดำเนินธุรกิจทั้ง 3 ส่วน คือ 1.กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง 2.กลุ่มการเลี้่ยงสัตว์ และ3.กลุ่มอาหาร ภายใต้แบรนด์ซีพี เพื่อใช้เป็นต้นแบบ (โมเดล) ขยายการดำเนินธุรกิจ ในอีก 16 สาขาต่างประเทศ ในฐานะองค์กรระดับโลก (โกลบอล เฟิร์ม)

ทั้งนี้จะดำเนินการภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1. แวลู ครีเอชัน เพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์จาการลงทุนในปัจจุบันให้มีมูลค่าเพิ่มในอนาคต 2. ดิจิทัล ทรานฟอร์เมชัน การเปลี่ยนถ่ายการบริหารจัดการองค์กรทั้งระบบด้วยเทคโนโลยีทันสมัยตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการทำตลาด และ 3.ดริฟเวน ซัสเทนเอบิลิตี การขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญในการพัฒนา "คน" ในแต่ละประเทศสาขาที่ซีพีเอฟ เข้าไปดำเนินธุรกิจ

ขณะเดียวกัน บริษัทยังให้ความสำคัญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ โดยมุ่งวิจัยและพัฒนา(อาร์แอนด์ดี) ในทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง

ล่าสุดพัฒนานวัตกรรมกลุ่มสัตว์เลี้ยง "ไก่เบญจา"ได้สำเร็จ เป็นไก่ซีพีที่ได้รับการเลี้ยงดูแลด้วยข้าวกล้อง ไก่จะมีเนื้อนุ่มมากกว่าปกติ และยังเป็นไก่โพรไบโอทิค ปราศจากฮอร์โมน โดยในเร็วๆนี้ ซีฟีเอฟ เตรียมพัฒนาไก่เบญจาแปรรูปเพื่อทำตลาดด้วย จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตไก่เบญจาเพื่อรอทำตลาด 2 แสนตัวต่อสัปดาห์

นอกจากนี้ในอนาคต บริษัทยังให้เตรียมพัฒนาอาหารโปรตีนทางเลือก(อัลเทอร์เนทีฟ โปรตีน) โดยอยู่ระหว่างทำงานร่วมกับพันธมิตร 2 - 3 รายในต่างประเทศ อาทิ บียอนด์มีท และ อินสไปร์ ฟู้ด โดยกลุ่มอาหารโปรตีนทางเลือกที่ บริษัทสนใจพัฒนาในเบื้องต้น คือ แพลนท์ โปรตีน หรือ กลุ่มอาหารโปรตีนที่ได้จากพืช

ปัจจุบัน บริษัทได้คิดค้นและพัฒนาอาหารสุขภาพ กลุ่มสมาร์ท(Smart)อาทิ อาหารเพื่อผู้ป่วยและผู้สูงวัย สมาร์ทซุป อาหารมังสวิรัติ สมาร์ท มีล และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ สมาร์ท ดริ๊งค์ เป็นต้น

ทั้งนี้จากแผนการดำเนินธุรกิจดังกล่าวใน 17 ประเทศทั่วโลก และใน 19 สำนักงานสาขาในต่างประเทศ บริษัทวางเป้าหมายภายใน 5 ปี จะมีรายได้อยู่ที่ 8 แสนล้านบาท โดยจะมาจากกลุ่มธุรกิจทั้งสามในสัดส่วนเท่ากันทั้งหมด จากปัจจุบัน กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง มีสัดส่วน 42% กลุ่มธุรกิจการเลี้ยงสัตว์ 41% และ กลุ่มอาหาร 17%

ในปี 2561 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 5 แสนล้านบาท และมีกำไรอยู่ที่ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท แบ่งสัดส่วนรายได้ในประเทศ 28% ต่างประเทศ 67% โดยใน 3 ปีข้างหน้าจะปรับสัดส่วนรายได้ในประเทศลดเหลือ 25% และต่างประเทศเพิ่มเป็น 75% โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 10%