posttoday

ราชาเฟอร์รี่ฯ รุกขยายฐานลูกค้าเจาะกลุ่มเพื่อนบ้านอาเซียน

26 มิถุนายน 2562

ราชาเฟอร์รี่ฯ ปรับตัวรับกำลังซื้อหด มองหาตลาดเพื่อนบ้านทดแทนนักท่องเที่ยวจีน ร่วมทุนเมียนมาให้บริการสายการบินทุ่ม 100 ล้านบาทขยายท่าเทียบเรือเพิ่มแก้ปัญหาคอขวด

ราชาเฟอร์รี่ฯ ปรับตัวรับกำลังซื้อหด มองหาตลาดเพื่อนบ้านทดแทนนักท่องเที่ยวจีน ร่วมทุนเมียนมาให้บริการสายการบินทุ่ม 100 ล้านบาทขยายท่าเทียบเรือเพิ่มแก้ปัญหาคอขวด

นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ยังชะลอตัวอยู่ เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศที่ลดลง ประกอบกับกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักอย่างจีนและรัสเซีย ซึ่งเคยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักก็ลดลง ทำให้บริษัทเตรียมขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยจะหันมาจับกลุ่มนักท่องเที่ยวจากอินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซียและสิงคโปร์มาทดแทน

นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ขยายเส้นทางการท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เพิ่มเติม และขยายธุรกิจเดินทางเชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวทั้งจากกรุงเทพฯ และพื้นที่ภาคใต้ตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นฐานใหญ่ของบริษัทในภาคใต้ให้เชื่อมโยงเข้ากับแหล่งท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้าน

“ล่าสุดบริษัทได้ทำสัญญาร่วมลงทุนกับสายการบินในประเทศเมียนมา เพื่อให้บริการจอง/จำหน่ายตั๋วเครื่องบินสายการบิน ในอนาคตยังมีแผนเข้าไปเปิดให้บริการเดินเรือเฟอร์รี่ในต่างประเทศ รวมทั้งอยู่ระหว่างศึกษาเส้นทางที่เป็นไปได้ในการเปิดให้บริการเดินรถเส้นทางด่านสิงขร หากด่านสิงขรเปิดเป็นด่านถาวรเมื่อไหร่ น่าจะมีความชัดเจนขึ้น” นายอภิชาติ กล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มกองเรือจากปัจจุบันมีกองเรือทั้งหมด 15 ลำ พร้อมทั้งเตรียมลงทุนมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างท่าเทียบเรือที่4-5 เพิ่ม เพื่อแก้ปัญหาคอขวดในการให้บริการและยังเป็นการเตรียมพร้อมรองรับจำนวนผู้ใช้บริการที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอใบอนุญาต ซึ่งหลังจากได้รับใบอนุญาตจะสามารถก่อสร้างได้ทันที คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างไม่เกิน 1 ปี

ทั้งนี้ ยังได้เตรียมขอภาครัฐปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารขึ้นตามภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งบริษัทมีการลงทุนเพิ่มเรือจำนวน 3 ลำ ลงทุนท่าเทียบเรือที่เกาะสมุย เเละลงทุนส่วนกลาง นอกจากนี้ค่าเเรงที่ปรับตัวขึ้น คาดว่าจะอยู่ประมาณ 20% ตามต้นทุนเนื่องจากได้ตรึงราคามาจากปี 2552

สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/2562 คาดว่าจะทรงตัวใกล้เคียงกับจากไตรมาส 1/2562 ซึ่งเป็นไฮซีซั่นธุรกิจ แต่อย่างไรก็ดีบริษัทยังมั่นใจว่าจะสามารถรักษาระดับการเติบโตของรายได้ปีนี้ ไว้ที่ 5-10% จากปีก่อน 750.43 ล้านบาท