posttoday

'พีทีจี' โชว์กำไรไตรมาสแรก แตะ 519 ล้านบาท ฝันก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 2

15 พฤษภาคม 2562

“พีทีจี เอ็นเนอยี”เปิดงบไตรมาสแรก กำไรสุทธิ 519 ล้านบาท โต 93% ยอดขายน้ำมัน 18% หวังขยับส่วนแบ่งตลาดขึ้นอันดับ 2

“พีทีจี เอ็นเนอยี”เปิดงบไตรมาสแรก กำไรสุทธิ 519 ล้านบาท โต 93% ยอดขายน้ำมัน 18% หวังขยับส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีจี เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/62 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 519 ล้านบาท เติบโต 93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 269 ล้านบาท โดยมีกำไรก่อน ดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 1,435 ล้านบาท เติบโต 51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ยังคงเป้าหมายในการสร้างรายได้ และกำไรจากช่องทางอื่นๆ นอกจากการจำหน่ายน้ำมัน โดยการต่อยอดและใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์เดิมให้คุ้มค่ามากที่สุด เพื่อลดความผันผวนของกำไรจากการมีธุรกิจน้ำมันเพียงธุรกิจเดียว

โดยในช่วงไตรมาส 1/62 บริษัทยังคงมีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 28,655 ล้านบาท เติบโต 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของปริมาณการขายน้ำมันและก๊าซแอลพีจี ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ Non-oil

ขณะเดียวกันบริษัทยังคงรักษาความเป็นผู้นำในด้านการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันได้อย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/2562 บริษัทมีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งสิ้น 1,109 ล้านลิตร ขยายตัว 17.70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมทั้งยังมีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการรวมทั้งสิ้น 1,045 ล้านลิตร เติบโตเท่ากับ 17.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการของบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 94% ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งหมด จากการรักษาความเป็นผู้นำการบริการและความเป็นหนึ่งด้านการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาสนี้ทางบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดผ่านทุกช่องทางเท่ากับ 13.0% เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ และส่วนแบ่งการตลาดผ่านสถานีบริการอยู่ที่ 15.30% เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ

ส่วนของการจำหน่ายแอลพีจีผ่านสถานีบริการ มีปริมาณการ 30 ล้านลิตร เติบโต 55.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 6.20% เนื่องจากการมุ่งเน้นการขยายสาขาของเครือข่ายธุรกิจน้ำมันและ Non-oil ในพื้นที่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ส่งผลให้ไตรมาสแรกปีนี้มีจำนวนสถานีบริการน้ำมันและแอลพีจี ทั้งสิ้น 1,916 สาขา