ดันคราฟต์ไทย ฮับภูมิภาคอาเซียน

เรื่อง วราภรณ์ เทียนเงิน

กำลังเข้าสู่ 16 ปีของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (SACICT) ที่พร้อมผลักดันผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยให้เติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ศูนย์กลางศิลปหัตถกรรมในภูมิภาค

“อัมพวัน พิชาลัย” ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (SACICT) เปิดเผยว่า แผนงานของ SACICT ในปี 2562 จะมุ่งอนุรักษ์และต่อยอดภูมิปัญญางานศิลปหัตถกรรมไทย พร้อมกับวางเป้าหมายการสร้างองค์กรสู่การเป็น “SACICT Art & Craft Hub” ในภูมิภาคอาเซียน การร่วมส่งเสริมการพัฒนางานศิลปหัตถกรรมไทยในทุกมิติ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 การทำให้งานหัตถศิลป์ไทยเติบโตในเวทีระดับโลก สร้างโอกาสตลาดต่างประเทศ ตลอดจนนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่พิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ

ทั้งนี้ จะมีแนวทางการพัฒนา ทั้งพัฒนาคน ได้แก่ ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม เพื่อร่วมอนุรักษ์ ทักษะ ฝีมือ องค์ความรู้ พร้อมส่งต่อไปยังรุ่นต่อไป ต่อมาคือการสร้างชุมชนหัตถกรรม และผลักดันการรวมกลุ่มของชุมชนหัตถกรรมไปสู่การทำ คราฟต์ คลัสเตอร์ และขยายความร่วมมือไปสู่ชุมชนต่างประเทศ โดยปัจจุบันได้มีการแลกเปลี่ยนกับชุมชนหัตถกรรมไต้หวันและภูฏาน

ส่วนผู้ประกอบการด้านหัตถศิลป์ไทย จะมุ่งการร่วมยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยและส่งเสริมคนรุ่นใหม่ให้อนุรักษ์งานหัตถศิลป์ไทย

ขณะที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ จะร่วมสร้างมูลค่าพร้อมพัฒนารูปแบบให้สอดคล้องกับตลาด และผู้บริโภค การพัฒนาให้สอดคล้องกับเทรนด์โลก อีกทั้งได้จับมือพันธมิตรสร้างหัตถศิลป์ใหม่ ทั้งการทำโครงการ SACICT Signature Collection เครื่องเบญจรงค์ โครงการ Cross Culture Craft โครงการเส้นทางสายผ้าทอ Weaving Streets โครงการ Craft Knowledge Exchange Program และโครงการ Craft Co-Creation ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างนักออกแบบ ผู้ประกอบการ และชุมชนหัตถกรรม

สำหรับการส่งเสริมการตลาดจะเน้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ไอคอนสยาม และแบรนด์ต่างประเทศ ร้านสตาร์บัคส์ รวมถึงมีช่องทางผ่านร้านค้าในสนามบิน ทั้งร้าน SACICT ช็อป ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินภูเก็ต อีกทั้งมีการจัดงานด้านหัตถศิลป์ต่อเนื่องในทุกปี ได้แก่ งานอัตลักษณ์แห่งสยาม งานคราฟต์ แบงคอก ฝ้ายทอใจ และชีวิตใหม่ ใต้ร่มพระบารมี อีกทั้งนำไปร่วมงานในต่างประเทศ

อีกทั้งจะมีการพัฒนาเครื่องมือและทำฐานข้อมูลบิ๊กดาต้า เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับหัตถศิลป์ รวมถึงเก็บข้อมูลเชิงลึกกับผู้บริโภค เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับตลาด

นอกจากนี้ เตรียมแผนส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยปีนี้ประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียน และมีการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนในประเทศไทย ครั้งที่ 34 มีขึ้นในเดือน มิ.ย.นี้ และครั้งที่ 35 เดือน พ.ย.นี้ รวมถึงการประชุมอื่นๆ ซึ่ง SACICT ได้เตรียมของขวัญและของที่ระลึกสำหรับผู้นำประเทศและคู่สมรสในการประชุมสุดยอดอาเซียน