พานาโซนิคสู้บาทแข็ง เร่งขยายสู่เป้าแสนล.

โดย...จะเรียม สำรวจ

ผ่านไปแล้ว 100 ปี สำหรับแบรนด์ "พานาโซนิค" และเพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์ที่มีอายุครบ 250 ปี ตามที่ประธานของพานาโซนิคได้วางเป้าหมายไว้ว่าทุกคนบนโลกใบนี้ต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทำให้พานาโซนิคต้องเดินหน้าพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามา ทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ พานาโซนิค ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งฐานการผลิตที่สำคัญในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดโลก
  
ปัจจุบัน พานาโซนิค ประเทศไทย มีสินค้าที่ทำการผลิตด้วยกัน 4 กลุ่ม คือ 1.Appliances Company (AP) ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัว เครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศ ตู้แช่ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (คอมเพรสเซอร์) 2.Eco Solutions Company (ES) ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับโคมไฟติดเพดาน หลอดไฟ อุปกรณ์เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับระบบน้ำ วัสดุตกแต่งภายในบ้าน ระบบระบายอากาศ ระบบเครื่องปรับอากาศ อุปกรณ์รักษาพยาบาล และจักรยานไฟฟ้า เป็นต้น

กลุ่มที่ 3.Connected Solution Company (CNS) นำเสนอโซลูชั่นต่างๆ รวมถึงการพัฒนา การเชื่อมต่อระบบ การบำรุงรักษา และระบบปฏิบัติการซึ่งมีเป้าหมายหลักไปยังธุรกิจเกี่ยวกับการบิน โรงงานอุตสาหกรรม เอนเตอร์เทน เมนต์ ธุรกิจค้าปลีก ระบบขนส่ง และพื้นที่สาธารณะ และกลุ่มที่ 4.Automotive & Industrial Systems Company (AIS) ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบข้อมูลและความบันเทิงในรถยนต์ รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับมัลติมีเดียในรถยนต์ แบตเตอรี่ในรถยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับอุตสาหกรรม เป็นต้น
    
ทั้งนี้ เพื่อให้สินค้าของพานาโซนิคในประเทศไทยมีความหลากหลายมากขึ้น ในปี 2562 นี้จึงมีแผนที่จะนำสินค้าที่ไม่เคยมีจำหน่ายในประเทศไทยมาก่อนเข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม โดยในเบื้องต้นจะเน้นไปที่การนำเข้าก่อน หลังจากนั้นจึงจะมองหาโอกาสนำสินค้ากลุ่มดังกล่าวเข้ามาผลิตในประเทศไทย แต่จะเป็นสินค้ากลุ่มไหนนั้น ขณะนี้พานาโซนิคยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดที่แน่ชัดได้

อย่างไรก็ดี จากการที่เงินบาทของไทยมีการแข็งค่ามากขึ้น ส่งผลให้การส่งออกสินค้าของพานาโซนิค ประเทศไทย ค่อนข้างประสบกับปัญหาในอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งจากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้พานาโซนิคต้องปรับแผนรุกด้วยการหันมาลดต้นทุนการดำเนินงานมากขึ้น

ฮิเดคาสึ อิโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศ ไทย กล่าวว่า สิ่งที่บริษัทต้องเร่งดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาเงินบาทไทยแข็งค่าในขณะนี้คือ การลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น และหันมาเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสินค้า รวมไปถึงการออกแบบสินค้าให้มีความทันสมัยตรงกับความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ขายสินค้าได้มากขึ้น

ขณะเดียวกันก็จะมีการเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่าง ต่อเนื่อง รวมไปถึงการขยายไลน์การผลิตสินค้า เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดส่งออก เนื่องจากปี 2563 พานาโซนิค มีแผนจะสร้างรายได้ในประเทศไทยให้ถึง 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่จะปิดรอบบัญชีในเดือน มี.ค.นี้ ที่ 9.1 หมื่นล้านบาท และเพิ่มเป็น 9.5 หมื่นล้านบาท ในปี 2562 แบ่งเป็นรายได้ ส่งออก 80% ในประเทศ 20%