posttoday

ซีพีเอฟผนึกยักษ์ไต้หวัน ปักธงภัตตาคาร'ฮาร์เบอร์'

21 กุมภาพันธ์ 2562

ซีพีเอฟ จับมือ ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจอาหารจากไต้หวัน เปิด ภัตตาคาร "ฮาร์เบอร์" สาขาแรกที่ชั้น 6 ไอคอนสยาม

โดย...จะเรียม สำรวจ

ถือเป็นอีกหนึ่งบิ๊กโปรเจกต์เขย่าวงการร้านอาหารเมื่อสองยักษ์ใหญ่แห่งวงการอาหารอย่าง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ กับไห่หลายกรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจอาหารจากไต้หวัน ได้มาจับมือกันก่อตั้ง บริษัท ซีพี ไห่หลาย ฮาร์เบอร์ ภายใต้ทุนจดทะเบียน 160 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจภัตตาคาร "ฮาร์เบอร์" ในประเทศไทย แบ่งเป็นซีพีเอฟเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในอัตราส่วน 51% และไห่หลายกรุ๊ป ถือหุ้น 49%

เหตุผลที่ทำให้ซีพีเอฟเลือก ไห่หลายกรุ๊ปเป็นพันธมิตรในการทำธุรกิจภัตตาคารฮาร์เบอร์ในครั้งนี้ เพราะ ไห่หลายกรุ๊ปมีธุรกิจที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารที่มีมากถึง 15 แบรนด์ รวม 40 สาขา ธุรกิจรับจัดเลี้ยงงานแต่ง ซึ่งในส่วนของธุรกิจร้านอาหารก็มีความหลากหลาย อาหารไต้หวัน อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารไทย อาหารอินเดีย อาหารตะวันตก อาหารอาเซียน หรือเทปันยากิ ซึ่งในกลุ่มของธุรกิจร้านอาหาร "ฮาร์เบอร์" ถือเป็นแบรนด์ที่สร้างรายได้หลักให้กับธุรกิจคิดเป็น 50% ของรายได้รวม

นอกจากนี้ หากมองในด้านของรายได้ ไห่หลายกรุ๊ปยังมีผลประกอบการที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมามีรายได้รวมสูงถึง 4,400 ล้านบาท จากเหตุและผลดังกล่าว ซีพีเอฟจึงตัดสินใจเลือกแบรนด์ "ฮาร์เบอร์" มาประเดิมธุรกิจในประเทศไทย โดยเลือกทำเลศูนย์การค้าไอคอนสยามเป็นตัวทดลองตลาด

สุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจอาหารและกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า การที่บริษัทเลือกภัตตาคารฮาร์เบอร์เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทย เพราะในไต้หวันและประเทศจีนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งในส่วนของสาขาแรกที่จะเปิดให้บริการ คือพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร บริเวณชั้น 6 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม เพราะเป็นทำเลที่มีศักยภาพ

สำหรับรูปแบบของอาหารที่จะนำมาให้บริการจะเป็นแบบอินเตอร์เนชั่นแนลบุฟเฟ่ต์รูปแบบเดียวกับที่เปิดให้บริการในไต้หวันและประเทศจีน ภายในร้านจะมีที่นั่งรองรับลูกค้าได้รอบละประมาณ 450 ที่นั่ง ส่วนราคาอาหารในวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงกลางวันจะเริ่มต้นที่ประมาณ 799 บาท ช่วงค่ำเริ่มต้นที่ 899 บาท และเสาร์-อาทิตย์ ราคาจะเริ่มต้นที่ 1,099 บาท ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการหมุนเวียนต่อวันไม่ต่ำกว่า 1,000 คน

ด้าน หลิว จื่อ หมิง ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ซีพี ไห่หลาย ฮาร์เบอร์ กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีที่ได้เข้ามาร่วมทำธุรกิจกับซีพีเอฟ เพราะธุรกิจอาหารของประเทศไทยมีทิศทางการเติบโตที่ดี เนื่องจากประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักเดินทางทั่วโลก และ ซีพีเอฟเองก็เป็นผู้นำในด้านธุรกิจอาหารของไทย ขณะที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ซึ่งเป็นทำเลแรกในการเปิดให้บริการก็เป็นโครงการอภิมหาโปรเจกต์ บริษัทจึงมีความมั่นใจในการเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย

หลังจากเปิดให้บริการ บริษัท ซีพี ไห่หลาย ฮาร์เบอร์ คาดว่าสิ้นปี 2562 นี้จะมีรายได้ที่ 240 ล้านบาท และในอนาคตจะนำภัตตาคารฮาร์เบอร์ไปเปิดให้บริการในเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาและภูเก็ต รวมไปถึงตลาดอาเซียน ซึ่งจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง