เร่งปั้นสตาร์ทอัพ
สตาร์ทอัพ เป็นเครื่องยนต์ตัวใหม่ ที่ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล
เรื่อง เบ็ญจวรรณ รัตนวิจิตร
สตาร์ทอัพ เป็นเครื่องยนต์ตัวใหม่ ที่ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งความหวังว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ในยุค 4.0 นี้
ล่าสุด สมคิดเดินทางไปกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อผลักดันความร่วมมือกับสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง (HKETO) ที่เลือกตั้งสำนักงานในประเทศไทย พร้อมเตรียมลงนามความร่วมมือในการจัดตั้ง “อินโนสเปซ (ไทยแลนด์)” เพื่อส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทย ในวันที่ 28 ก.พ.นี้
สำหรับศูนย์ส่งเสริมนวัตกรรม หรือ Thailand InnoSpace เป็นความร่วมมือของกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานพันธมิตร 16 องค์กร มีทุนประเดิมเริ่มต้น 500 ล้านบาท ซึ่ง อุตตม สาวนายน อดีต รมว.อุตสาหกรรม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวเปิดตัวไปเมื่อกลางเดือน ธ.ค. 2561 และมีแผนจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูต่อไปว่าโครงการนี้จะเป็นรูปเป็นร่างได้ทันตามกำหนดหรือไม่ แต่ปัจจุบันหลายหน่วยงานของรัฐต่างเร่งผลักดันโครงการสนับสนุนสตาร์ทอัพในประเทศไทย
ล่าสุด สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามความร่วมมือ “โครงการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตทางธุรกิจเทคโนโลยีอาหาร (Foodtech Incubator & Accelerator Program; FIAP)” ภายใต้ชื่อ “SPACE-F” เพื่อบ่มเพาะและพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้นด้านธุรกิจนวัตกรรมอาหาร (FoodTech Startup)
พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า SPACE-F จะเน้น 9 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ 1.อาหารเพื่อสุขภาพ (Health & Wellness) 2.โปรตีนทางเลือก (Alternative Proteins) 3.กระบวนการผลิตอาหารอัจฉริยะ (Smart Manufacturing) 4.บรรจุภัณฑ์แห่งอนาคต (Packaging Solutions) 5.ส่วนผสมและอาหารใหม่ (Novel Food & Ingredients) 6.วัสดุชีวภาพและสารเคมี (Biomaterials & Chemicals) 7.เทคโนโลยีการบริหารจัดการร้านอาหาร (Restaurant Tech) 8.การตรวจสอบควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร (Food Safety & Quality) และ 9.บริการอัจฉริยะด้านอาหาร (Smart Food Services)
ทั้งนี้ NIA ตั้งเป้าว่าโครงการ SPACE-F จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มจำนวนบริษัทสตาร์ทอัพด้านธุรกิจนวัตกรรมอาหารในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 60 ราย ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยในเดือน พ.ค.นี้ จะคัดเลือกบริษัทสตาร์ทอัพ 12-30 ราย เพื่อเข้าร่วมโครงการ
นเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเซล (TCELS) สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เตรียมจัดโครงการ TCELS Mentoring Program..Journey to Success วันที่ 15 ก.พ.นี้ เพื่อปั้นสตาร์ทอัพดาวรุ่งที่ผ่านการอบรมพัฒนาแผนธุรกิจมาแล้ว ให้มีนวัตกรรมด้านการแพทย์และสุขภาพที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ มีมาตรฐานระดับสากล เพื่อการขับเคลื่อนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ
TCELS ได้เริ่มดำเนินโครงการในการสนับสนุนและส่งเสริมสตาร์ทอัพ ภายใต้แบรนด์ Thailand Startup for Life Sciences ตั้งแต่ปี 2560 โดยมีความร่วมมือจากพันธมิตรภาคธุรกิจและการเงิน ในการบ่มเพาะ พัฒนาระบบ และการร่วมลงทุน (Investment)
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ทีเซลร่วมจับมือกับพันธมิตรอื่นๆ ในการทำธุรกิจอีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ Digital Health Chiang Mai Revolution ร่วมกับ STeP, โครงการ SPRINT Batch 3 ร่วมกับ Sasin และ SCG Chemicals และโครงการ Leave A Nest ร่วมมือกับ Accelerator จากญี่ปุ่น ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ www.tcels.or.th หรือสอบถามโทร. 08-6490-0139