posttoday

'นกแอร์'เพิ่มลงทุนฉลุย ผู้ถือหุ้น99.96%ไฟเขียว นำเงินคืนหนี้

23 มกราคม 2562

ผู้ถือหุ้น 99.96% ไฟเขียวนกแอร์เพิ่มทุน เฉียด 2,500 ล้าน มั่นใจ ผู้ถือหุ้นใหญ่ใช้สิทธิทั้งจำนวน ไม่ปิดกั้นการควบรวมสายการบินอื่น

ผู้ถือหุ้น 99.96% ไฟเขียวนกแอร์เพิ่มทุน เฉียด 2,500 ล้าน มั่นใจ ผู้ถือหุ้นใหญ่ใช้สิทธิทั้งจำนวน ไม่ปิดกั้นการควบรวมสายการบินอื่น

การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้ง 1/2562 ของบริษัท สายการบินนกแอร์ (NOK) เพื่อขออนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 2,499 ล้านบาท เป็น 3,408 ล้านบาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน  908.79 ล้านบาท หรือ 908.79 ล้านหุ้น ราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท ขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ราคาหุ้นละ 2.75 บาท สัดส่วน 2.5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน หากผู้ถือหุ้นใช้สิทธิเต็มจำนวนจะได้รับเงินเข้ามา 2,499.17 ล้านบาท ซึ่ง ผู้ถือหุ้นอนุมัติให้เพิ่มทุนด้วยคะแนนเสียง 99.96% โดยจะมีวันจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน วันที่ 31 ม.ค.-6 ก.พ. 2562

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการ NOK กล่าวว่า หลังเพิ่มทุน NOK น่าปลดเครื่องหมาย C ได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ เพราะมีโอกาสที่จะทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวกได้ จากปัจจุบันที่ส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว

"ในการประชุมครั้งนี้ทางนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย (THAI) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 สัดส่วน 21.080% ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่การที่การบินไทยจะใช้สิทธิในการเพิ่มทุนหรือไม่ เป็นเรื่องวิจารณญาณของการบินไทย แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นสายการบินแอร์ต้องอยู่ให้ได้" นายประเสริฐ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้สอบถามถึงความเป็นไปได้ในการควบรวมกับสายการบินอื่น ซึ่งนายประเสริฐชี้แจงว่า แผนการควบรวมกับสายการบินอื่นก็ยอมรับเป็นหนึ่งในทางเลือกหรือวิธีการหนึ่งที่บริษัทได้ศึกษา เพราะการแข่งขันในอุตสาหกรรมตอนนี้บางครั้งต้องคำนึงหรือทำให้เกิดถึงการประหยัดต่อขนาดไปด้วย (Economy of Scale)

นอกจากนั้น อนาคตมีแนวทางที่ ต้องการจะให้เหลือเครื่องบินประเภทเดียวเพื่อลดต้นทุน จากปัจจุบันมี 3 ประเภท  คือ โบอิ้ง 737 จำนวน 15 ลำ คิว 400 จำนวน 8 ลำ และเอทีอาร์จำนวน 2 ลำ ซึ่งเครื่องบินขนาดเล็กจะค่อยๆ เลิกใช้ไป ประกอบกับจากผู้ถือหุ้นเก่าได้มีการ ทำสัญญาซื้อขายเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ อีก 6 ลำไว้ โดยมัดจำไว้ลำละ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายประเวช องอาจสิทธิกุล รักษาการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NOK กล่าวว่า ถ้าเพิ่มทุนสำเร็จคาดว่าจะมีการนำไปชำระหนี้ด้วยบางส่วน ซึ่งตามกฎ ของตลาดหลักทรัพย์หากส่วนผู้ถือหุ้นติดลบเหลือครึ่งหนึ่งก็ปลดเครื่องหมาย C ได้เลย ส่วนเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะหยุดขาดทุนในปีที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยลบทั้งสงครามการค้า นักท่องเที่ยวจีน ทำให้ยังไม่เข้าเป้าหมายและปีนี้ก็มุ่งมั่นจะหยุดขาดทุนให้ได้ และเปิดเส้นทางไปอินเดียและฮิโรชิมาของญี่ปุ่นมากขึ้น รวมถึงการใช้ประสิทธิภาพกับในเครืออย่างนกสกู๊ตเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ NOK คือ กลุ่มจุฬางกูร ที่ถือหุ้นรวมกัน 55.13% ไม่ได้เข้ามาร่วมประชุม โดยผู้ถือหุ้นอันดับ 1 คือ นายณัฐพล ถือหุ้น 23.77% อันดับ 3 นายทวีฉัตร ถือหุ้น 18.86% และนางหทัยรัตน์ ถือหุ้นอันดับ 4 ถือ 12.60%