posttoday

SME ต้องปรับตัวอย่างไร ในปี 2019

17 มกราคม 2562

ก่อนอื่นขอสวัสดีปีใหม่ 2019 คุณผู้อ่านทุกท่าน ใครๆ ก็ว่าปีนี้เป็นอีกปีที่คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะโหดกว่าปีที่ผ่านมา

เรื่อง พิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุด SME Segment ธนาคารไทยพาณิชย์Logo

ก่อนอื่นขอสวัสดีปีใหม่ 2019 คุณผู้อ่านทุกท่าน ใครๆ ก็ว่าปีนี้เป็นอีกปีที่คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะโหดกว่าปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินธุรกิจต้องเดินหน้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในอนาคต ครั้งก่อนเคยพูดถึงเทรนด์ธุรกิจไปแล้ว ครั้งนี้จึงมาว่ากันด้วยเรื่องของพฤติกรรมผู้บริโภคในปี 2019

หากคุณทำธุรกิจแต่ไม่รู้จักกลุ่มเป้าหมาย ไม่เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคหรือลูกค้าว่าเปลี่ยนไปอย่างไร คงเป็นเรื่องยากที่จะสร้างสรรค์สินค้าหรือบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ และโอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็คงเป็นไปได้ยาก ดังนั้น พฤติกรรมผู้บริโภคจึงเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ผู้ประกอบการ SME ต้องหมั่นอัพเดทอยู่เสมอ เพราะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและแตกต่างไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง

ในปี 2019 หากมองแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่น่าจะเห็นได้ชัด คือ ต้องการความจริง ความโปร่งใส และความถูกต้อง ที่สำคัญยุคนี้อำนาจอยู่ในมือผู้บริโภคอย่างเต็มที่ ลูกค้าต้องการควบคุม หรือเลือกได้ด้วยตนเอง หากแบรนด์ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าถูกจำกัดทางเลือกอาจเกิดความรู้สึกติดลบกับแบรนด์ได้

ภาพเหล่านี้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อการโฆษณาจากแบรนด์โดยตรงมีประสิทธิภาพลดลง เพราะผู้บริโภครู้สึกว่าไม่ใช่ความจริง 100% จนนำมาสู่การตลาดที่ใช้ Influencer ที่เป็นคนดังมาช่วยแนะนำสินค้าจนผู้บริโภคเริ่มรู้ว่าเป็นโฆษณาแฝง ทำให้การใช้ Micro Influencer หรือการรีวิวจากคนธรรมดาทั่วไปเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากกว่า เพราะผู้บริโภคชอบความจริงจากผู้บริโภคด้วยกันเอง และวันนี้ดูเหมือนว่าผู้บริโภคจะมองหาความจริงที่ลงลึกมากขึ้นไปอีก ดังนั้น Nano Influencer ซึ่งเป็น Influencer ที่มีผู้ติดตามเพียงหลักพันจึงเริ่มมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะลูกค้าเชื่อว่าพวกเขามีประสบการณ์จริงกับแบรนด์ โดยเทรนด์นี้น่าจะมาแรงมากขึ้นในปี 2019 สะท้อนว่าผู้บริโภคต้องการความจริงใจจากแบรนด์มากที่สุด Hard Sale ได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง เพราะวันนี้ลูกค้ารู้ทันแบรนด์และกลยุทธ์การตลาดมากขึ้น ประเภทขายแบบเนียนๆ หรือบอกไม่หมดไม่สามารถใช้ได้ผลอีกต่อไป และถ้ายังฝืนใช้อาจส่งผลเสียหรือผลกระทบด้านลบต่อแบรนด์มากกว่า เพราะผู้บริโภคจะมองว่าแบรนด์นั้นไม่จริงใจ

สำหรับความโปร่งใส สังเกตได้ว่าทุกวันนี้มีการติดคิวอาร์โค้ดให้ลูกค้าสแกนอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า รวมถึงการแจ้งที่มาของสินค้า เช่น ผลิตจากที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบย้อนหลังและเกิดความเชื่อมั่นต่อสินค้าได้

แม้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เกิดขึ้นนี้อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ความชัดเจนของผู้บริโภคในเรื่องดังกล่าวจะยิ่งมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ หลายเรื่องที่ผู้ประกอบการคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูด หรือเปิดเผยให้ผู้บริโภคได้รู้ อาจเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการรู้ การทำธุรกิจยุคนี้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องให้ความจริงใจกับลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่ง หรือสร้างประโยชน์ที่แท้จริงให้กับลูกค้า

สำหรับธุรกิจ SME นี่คือจุดได้เปรียบเมื่อเทียบกับแบรนด์ใหญ่ เพราะธรรมชาติของแบรนด์ขนาดเล็กสามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและตรงกลุ่มมากกว่า การแสดงความจริงใจจึงไม่ใช่เรื่องยากและต้องลงทุนด้วยงบประมาณก้อนโต เพียงแค่ใช้ความจริงเป็นตัวบอกเล่าแบรนด์ โอกาสที่ผู้บริโภคจะรับรู้ได้ก็มีสูง อย่าลืมว่าผู้บริโภคยุคนี้ฉลาดพอที่จะดูรู้ว่าสิ่งไหนจริงหรือไม่จริง ถ้าคุณอยากมัดใจลูกค้าให้ได้ ไม่ว่าปีนี้หรือปีไหนจงทำแบรนด์ของคุณให้มีความจริงใจต่อลูกค้า