posttoday

นีโอฯชูนวัตกรรม ดันรายได้หมื่นล้าน

16 มกราคม 2562

นีโอ คอร์ปอเรท เตรียมทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน สร้างโรงงาน พร้อมลงทุนด้านนวัตกรรมการผลิตด้วยระบบหุ่นยนต์

โดย...ภูวดล โกมลรัตนเสถียร

โลกธุรกิจในยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จากเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ภาคธุรกิจจำเป็นต้องสร้างโอกาสและปรับตัว เช่นเดียวกับธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปในชีวิตประจำวัน

สุทธิเดช ถกลศรี ประธานกรรมการและประธานบริหาร บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคสัญชาติไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ใช้งบลงทุนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ บนพื้นที่กว่า 190 ไร่ ใน จ.ปทุมธานี พร้อมลงทุนด้านนวัตกรรมการผลิตด้วยระบบหุ่นยนต์ ซึ่งฐานการผลิตแห่งใหม่สามารถช่วยเพิ่มกำลังการผลิตสินค้ามากกว่า 125% จากปัจจุบัน

พร้อมกันนี้ ยังได้ใช้งบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท พัฒนาระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ หรือ AS/RS เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการให้มีความแม่นยำ รวดเร็ว ช่วยให้การจัดเก็บสินค้าประหยัดพื้นที่ถึง 60% ช่วยลดต้นทุนการขนส่ง โดยตั้งเป้ายกระดับศักยภาพฐานการผลิตนี้ให้เป็นมาตรฐานการผลิตในทุกๆ ด้านของระดับเอเชียและระดับโลก

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนพัฒนาพื้นที่โรงงานแห่งใหม่ ให้เป็นศูนย์วิจัยและพัฒนา สำหรับวิจัยพืชและวัตถุดิบท้องถิ่นจากธรรมชาติเพื่อทดแทนการ นำเข้า รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่รองรับเทรนด์สุขภาพออกสู่ตลาด เซ็กเมนต์ใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มพรีเมียมที่มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น

ทั้งนี้ ในแต่ละปีบริษัทจะใช้งบลงทุนราว 5-10% ของยอดขายเพื่อศึกษาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยจะเน้นความโดดเด่นเหนือคู่แข่งและให้มีคุณภาพทัดเทียมแบรนด์ระดับโลก รวมทั้งตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายทุกเพศ ทุกวัย

สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่โดยเน้นเทรนด์ของธรรมชาติและสุขภาพกว่า 80-100 รายการ เพื่อขยายตลาดในประเทศที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะบรรยากาศหลังจากการเลือกตั้งที่คาดว่าจะช่วยให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น

ขณะที่รายได้จากส่งออกในต่างประเทศ ปัจจุบันส่งออกไปกว่า 10 ประเทศ เช่น ดูไบ อิรัก ตะวันออกกลาง และประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเวียดนาม ลาว และกัมพูชา นับเป็นประเทศที่สร้างรายได้อันดับต้นๆ จากความนิยมสินค้าที่ผลิตในไทย ทำให้บริษัทเตรียมขยายตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น รวมถึงจีนตอนใต้และอินเดีย จากฐานประชากรที่สูง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยผลักดันรายได้จากการส่งออกในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 17% จากปีก่อนที่ขยายตัว 14% อีกทั้งจะพิจารณาส่งออกผลิตภัณฑ์ไปในตลาดสหรัฐภายในปี 2563

สุทธิเดช กล่าวว่า จากการเปิดโรงงานแห่งใหม่คาดจะช่วยให้บริษัทมียอดขายในปีนี้ราว 6,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่ 6,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 10% จากปี 2560 แบ่งเป็น สินค้าของใช้ส่วนตัว 40% ของใช้ในครัวเรือน 60% มีสินค้าหลักคือ แบรนด์ ไฟน์ไลน์ ดีนี่ และบีไนซ์

นับว่าการปรับตัวครั้งใหญ่ด้วยการลงทุนสร้างฐานผลิตชูนวัตกรรมและเทคโนโลยีครั้งนี้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและขยายองค์กรให้มียอดขายเติบโตขึ้นทุกปี ซึ่งสอดรับเป้าหมายที่นีโอฯ จะผลักดันรายได้รวมให้เพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 2565 และเพิ่มรายได้ส่งออกเป็น 25% อีกทั้งเป็นการประกาศชิงเบอร์ 1 ของแบรนด์ไทยท่ามกลางคู่แข่งแบรนด์ต่างชาติอีกด้วย