posttoday

วิชั่น 2020 โออิชิ กรุ๊ป ผู้นำอาหาร-เครื่องดื่มอาเซียน

17 ธันวาคม 2561

เปิดวิชั่น 2020 ของ "โออิชิ กรุ๊ป" กับเป้าหมายเป็นผู้นำอาหาร-เครื่องดื่มในระดับอาเซียน

เปิดวิชั่น 2020 ของ "โออิชิ กรุ๊ป" กับเป้าหมายเป็นผู้นำอาหาร-เครื่องดื่มในระดับอาเซียน

********************************

โดย...จะเรียม สำรวจ

หลังจากบริษัทแม่ ไทยเบฟเวอเรจ ออกมาประกาศวิสัยทัศน์ปี ค.ศ. 2020 (ปี 2563) ด้วยเป้าหมายเป็นผู้นำแบรนด์สินค้าในระดับอาเซียนและระดับภูมิภาค ส่งผลให้บริษัทลูกต่างทยอยออกมาประกาศยุทธศาสตร์ปี 2020 เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของบริษัทแม่เช่นเดียวกับบริษัท โออิชิ กรุ๊ป ที่ล่าสุดออกมาประกาศจะเป็น “Somebody” ในตลาดอาเซียนให้ได้ภายในปี 2020

นงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในตลาดอาเซียนและในไทย ปีนี้ยังคงมีอัตราการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ประกอบการในตลาดมีการนำเสนอสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความหลากหลาย แปลกใหม่และความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภค

แนวโน้มการทำตลาดในรูปแบบดังกล่าวถือว่าสอดคล้องกับ 5 แนวโน้มใหญ่ หรือเมกะเทรนด์ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือ 1.Urbanization การขยายตัวของสังคมเมือง ส่งผลให้ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป วิถีชีวิตเร่งรีบขึ้น ต้องการความสะดวกสบายยิ่งขึ้น 2.Growing Middle Income Class การเติบโตของประชากรผู้มีรายได้ระดับกลาง สะท้อนถึงกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น 3.Tech-Dependent Lifestyles การใช้เทคโนโลยีเป็นตัวนำ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

4.Healthy Eating/Aging Society เนื่องจากคนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น และจากการที่อัตราส่วนของผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพเริ่มได้รับความสนใจ และ 5.Asian Century การที่กลุ่มประเทศอาเซียนมีประชากรรวมกันมาถึง 600 ล้านคน ส่งผลให้นักลงทุนจากทั่วโลกหันมาให้ความสนใจขยายธุรกิจในตลาดอาเซียนมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจปี 2562 นี้ บริษัทต้องหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์เมกะเทรนด์

ขณะเดียวกัน ยังต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ รวมไปถึงการมุ่งเน้นขยายธุรกิจในตลาดอาเซียน โดยเฉพาะตลาดซีแอลเอ็มวี เนื่องจากตลาดดังกล่าวผู้บริโภคให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี

สำหรับสินค้าที่จะนำเข้าไปทำตลาดยังคงเป็นธุรกิจ 3 กลุ่มหลัก คือ 1.อาหาร 2.เครื่องดื่ม และ 3.อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน (แพ็กเกจ ฟู้ด) เหมือนกับการทำตลาดในประเทศไทย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพโดยเพาะธุรกิจแพ็กเกจ ฟู้ด เพราะเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามากกว่าธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม แต่ปัจจุบันบริษัทยังมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจดังกล่าวน้อย เนื่องจากอยู่ระหว่างเริ่มต้นธุรกิจ

นงนุช กล่าวอีกว่า บริษัทมั่นใจว่าในอนาคตธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานจะมีสัดส่วนรายได้ขึ้นมาเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของบริษัทอย่างแน่นอน จากปัจจุบันยังมีสัดส่วนน้อยมาก เมื่อเทียบกับธุรกิจอาหารที่มีสัดส่วน 52% ธุรกิจเครื่องดื่ม 48% จากภาพรวมรายได้ปี 2561 ที่ปิดไปเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา มีรายได้อยู่ที่ 12,596 ล้านบาท