posttoday

เลือกตั้งชัดดันอีเวนต์คึก

12 ธันวาคม 2561

อินเด็กซ์กางแผนบุกตลาดต่างประเทศ5ปี ปักธงตะวันออกกลาง

อินเด็กซ์ฯ ชี้ปีหน้าสินค้าอัดงบจัดกิจกรรม ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ รุ่ง ดันธุรกิจอีเวนต์ 1.3 หมื่นล้าน โต 10% หวังรายได้ 1,863 ล้าน

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าบริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอีเวนต์มูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท คาดเติบโต 5-10% เนื่องจากปัจจัยบวกการเลือกตั้ง รัฐบาลชุดใหม่มีแนวโน้มว่าจะใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง และธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์มีแนวโน้มคึกคัก รวมถึงนักการตลาดต่างเริ่มใช้เม็ดเงินในการทำกิจกรรมหรืออีเวนต์ ประชาสัมพันธ์ และโปรโมชั่นกับแบรนด์ต่างๆ โดยคาดผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศหรือจีดีพีโต 4%

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยลบที่กังวลสงครามเศรษฐกิจโลกระหว่างจีนกับอเมริกา พบว่ามาตรการจีนเริ่มจัดเก็บภาษีนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปต่างประเทศและซื้อสินค้าจากต่างประเทศ และจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศ ได้เริ่มส่งผลกระทบตลาดท่องเที่ยว ประเทศอื่นๆ แล้ว สำหรับในไทยขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่มีผลต่อเศรษฐกิจของไทย เพราะจีดีพีของไทยส่วนหนึ่งรายได้มาจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

ขณะที่แผนธุรกิจตลาดต่างประเทศ จะมุ่งโฟกัสกัมพูชา เมียนมา และให้ความสำคัญตลาดนอกซีแอลเอ็มวี เช่น ตะวันออกกลาง รวมถึงกำลังขยายไปสู่บังกลาเทศปีหน้า วางแผน 5 ปี ปักธงธุรกิจอีเวนต์ในตะวันออกกลางให้ได้ หลังจากคว้างาน เวิลด์ เอ็กซ์โป 2563 ดูไบ งานนิทรรศการ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่จะจัดวันที่ 20 ต.ค. 2563-10 เม.ย. 2564 โดยรัฐบาลไทยมีงบราว 887 ล้านบาท เพื่อสร้างพาวิลเลียนของไทยพื้นที่ 3,600 ตร.ม.

นายเกรียงไกร กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับประเทศตะวันออกกลางที่จะเข้าร่วมงานดังกล่าว 1-2 ราย เพื่อจะสร้างพาวิลเลียน คาดจะเจรจาแล้วเสร็จกลางปีหน้า สำหรับพาวิลเลียนครั้งนี้ ตั้งเป้าจำนวนผู้เข้าชมจะติด 1 ใน 10 หรือ 1.7 ล้านคน ส่วนประเทศเจ้าภาพตั้งเป้ามีผู้เข้าชม 25 ล้านคน

"เทรนด์ธุรกิจอีเวนต์ปีหน้า ซึ่งบริษัทจะมุ่งให้ความสำคัญมี 3 เอส ได้แก่ มีความแข็งแกร่ง (Storng) การสร้างอารมณ์ให้กับคน (Sentimental) และสามารถกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ได้ทันที (Suddenly) โดยมองว่าการทำอีเวนต์ การสร้างฟังก์ชันนัลจะไม่ตอบโจทย์ ต้องสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร เพื่อดึงให้เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งบริษัทจะโฟกัสโอน-โปรเจกต์ รวมถึงงานเจาะไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค"

สำหรับรายได้ปีหน้าตั้งเป้า 1,863 ล้านบาท เติบโต 24% แบ่งเป็น รายได้ 3  กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มมาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส 67% 2.กลุ่มครีเอทีฟ บิซิเนส ดีเวลลอปเมนต์ 27% และ 3.กลุ่มโอน-โปรเจกต์ 6% ส่วนรายได้ปีนี้ราว 1,602 ล้านบาท โดยได้รับโปรเจกต์ไอคอนสยามมูลค่าจัดงานกว่า 200 ล้านบาท และงาน เคาต์ดาวน์ ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ต่อเนื่องปีที่ 8 จนติดอันดับ 3 ใน 10 สถานที่เคาต์ดาวน์ของโลก