หนังไทยเนื้อหอม! "สหมงคล"เร่งลุยต่างแดน

แนวโน้มตลาดภาพยนตร์ไทยกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ส่งผลให้ผู้ประกอบการปรับแผนเน้นผลิตหนังคุณภาพเข้าฉายและขายตลาดต่างประเทศมากขึ้น

*******************************

โดย...จะเรียม สำรวจ

จากแนวโน้มของตลาดหนังไทยที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในปีนี้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมหนังไทยเริ่มหันมาปรับแผนผลิตหนังไทยที่มีคุณภาพเข้าฉายและขายในตลาดต่างประเทศมากขึ้น เช่นเดียวกับบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ที่หันมาปรับกลยุทธ์ธุรกิจหนังของตัวเอง ด้วยการผลิตหนังให้เพิ่มมากขึ้น และลิขสิทธิ์หนังที่ตัวเองมีอยู่ไปขายในต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการนำคอนเทนต์หนังที่มีอยู่ในมือมาปรับปรุงใหม่ให้ออกมาในรูปแบบของซีรี่ส์ก่อนที่จะส่งขายในต่างประเทศ

ชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการฝ่ายขาย บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้บริษัทจะยังคงเน้นการขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ของบริษัทไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น ทั้งในตลาดเดิมที่ทำอยู่แล้วและการเปิดตลาดใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นในยุโรปหรือเอเชีย ซึ่งบริษัทจะเน้นเป็นตลาดหลักเพื่อสร้างรายได้ จากสิ้นปีที่ผ่านมามีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ยังมีแผนที่จะนำเอาลิขสิทธิ์หนังของเครือสหมงคลฟิล์มมาพัฒนาเป็นซีรี่ส์ เพื่อสร้างรายได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนคอนเทนต์เดิมให้มีความเหมาะสมกับความเป็นซีรี่ส์ เนื่องจากปัจจุบันมีลิขสิทธิ์หนังมากกว่า 1,000 เรื่อง ที่ยังไม่หมดอายุสามารถเลือกนำมาปรับเปลี่ยนเป็นซีรี่ส์ได้ เพราะตอนนี้หลายประเทศให้ความสนใจภาพยนตร์ของไทย และเพื่อให้ภาพยนตร์ของไทยได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้บริษัทต้องหันมาปรับปรุงการผลิตภาพยนตร์ให้มีคุณภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายทำ พล็อตเรื่อง หรือการนำเสนอ เพื่อให้ภาพยนตร์ที่ผลิตออกมาตรงกับความต้องการของตลาดต่างประเทศมากขึ้น

“ตอนนี้หนังของเราหลายเรื่องกำลังเดินสายขายอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะไปในรูปแบบการโรดโชว์ โดยบางเรื่องที่ขายไปในต่างประเทศมียอดขายดีกว่าเปิดฉายในไทย เช่น เรื่องไวรอลที่กำลังขายอยู่ในเอเชีย หรือเรื่อง ขุนพันธ์ 2 ที่กำลังขายอยู่ในตลาดยุโรป” ชมศจี กล่าว

สำหรับแผนการสร้างหนังของเครือสหมงคลฟิล์มนับจากนี้ ยังมีแผนการสร้างหนังอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่วนในแต่ละปีจะสร้างหนังกี่เรื่องนั้นยังไม่สามารถกำหนดได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสภาพทางเศรษฐกิจหรือความต้องการของตลาด รวมไปถึงการสร้างพล็อตหนังด้วยที่ต้องดีและน่าสนใจ เพราะถ้าไม่ดีก็จะยังไม่ทำการผลิต โดยแต่ละปีคาดว่าจะมีการสร้างหนังเฉลี่ยต่อปีที่ประมาณ 5-10 เรื่อง และมีหนังหลากหลายแนว ส่วนของปี 2561 นี้สหมงคลฟิล์มได้ทำการสร้างหนังประมาณ 2 เรื่อง ขณะที่ปี 2562 มีแผนจะสร้างประมาณ 10 เรื่อง

ปัจจุบันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในไทยโดยรวมค่อนข้างจะเติบโตดี โดยเฉพาะกับหนังไทย ที่ตลาดเปิดกว้างมากขึ้น ผู้คนให้การยอมรับมากขึ้น

แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับหน้าหนังเองด้วยว่าดีมากน้อยแค่ไหน บางเรื่องเป็นกระแสทำรายได้มากกว่า 100ล้านบาทก็มีหลายเรื่อง ซึ่งพื้นที่ที่ทำเงินส่วนใหญ่จะเป็นตลาดต่างจังหวัด เนื่องจากปัจจุบันโรงหนังมีการขยายตัวไปในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะคนต่างจังหวัด ชอบดูหนังไทยมากกว่าหนังต่างประเทศ