posttoday

ข้าวถุงปีหน้าราคาพุ่ง หงษ์ทอง ปรับแผนสู้

08 ธันวาคม 2561

หงษ์ทอง ทุ่ม 20 ล้าน เร่งบริหารซัพพลายเชน บุกครบเซ็กเมนต์ หวั่นข้าวถุงเหลือแต่แบรนด์หลัก หวังรายได้โต 5% กวาด 2,500 ล้าน

หงษ์ทอง ทุ่ม 20 ล้าน เร่งบริหารซัพพลายเชน บุกครบเซ็กเมนต์ หวั่นข้าวถุงเหลือแต่แบรนด์หลัก หวังรายได้โต 5% กวาด 2,500 ล้าน

นายกัมปนาท มานะธัญญา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวแบรนด์หงษ์ทอง เปิดเผยว่า แผนธุรกิจบริษัทจะรุกตลาดเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับกับแนวโน้มผู้ดำเนินธุรกิจข้าวต้องบริหารซัพพลายเชนหรือการทำธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เนื่องจากกำไรจะลดลงเรื่อยๆ และมีความเป็นไปได้ว่าข้าวบรรจุภัณฑ์จะเหลือไม่กี่แบรนด์ที่อยู่ในตลาดจากปัจจุบันมีสินค้าด้วยกัน 20 แบรนด์หลัก

ทั้งนี้ บริษัทวางแผน 2 ปี มีสินค้า ครบทุกเซ็กเมนต์ ซึ่งจะเปิดตัวสินค้าใหม่ข้าวผสมแบรนด์หงษ์ทอง เพื่อรองรับราคาข้าวบรรจุถุงในปีหน้า มีแนวโน้มว่าจะไม่ได้ลดลงและมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น โดยขณะนี้ราคา 239-349 บาท/5 กก. คาดว่าตลาดข้าวถุงมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ปีหน้าเติบโต 4-5% ใกล้เคียงกับปีนี้ การเติบโตมาจากราคาข้าวที่ปรับขึ้น 30-40% แต่ในเชิงปริมาณเติบโตไม่มากนัก โดยพบว่าราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นทำให้ชนชั้นกลางจากซื้อ ข้าวหอมมาสู่การซื้อข้าวผสมราคาไม่เกิน 159 บาท/5 กก.

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าสร้างช่องทางออนไลน์ผ่านลาซาด้าและช้อปปี้ เป็นต้น โดยตั้งเป้าหมาย 5 ปี สัดส่วนยอดขายออนไลน์เพิ่มจาก 1% เป็น 10% หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมามียอดขายเติบโตมากกว่า 500% หรือราว 8 ล้านบาท รวมทั้ง จะเร่งขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ด้วยการจัดโปรโมชั่นลดราคา 50%

ขณะเดียวกัน เตรียมลงทุน 20 ล้านบาท เพื่อนำโรบอตมาใช้สำหรับการบรรจุที่มีความหลากหลายตามช่องทางจัดจำหน่ายสินค้า ทั้งโมเดิร์นเทรดและร้านค้าสะดวกซื้อ รวม 4 สายการผลิต และจะลงทุนให้ครบอีก 4 สาย รวมถึงการบริหารระบบ โลจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนด้านต่างๆ

นายกัมปนาท กล่าวว่า บริษัทได้เร่งแผนการตลาดในช่วงโค้งสุดท้าย หรือไตรมาส 4 ด้วยการเปิดตัวข้าวหอมมะลิใหม่ต้นฤดู 100% เป็นสินค้าที่มีจำกัดออกมาจำหน่าย 2 เดือน (พ.ย.-ธ.ค.) โดยมีกำลังการผลิต 4 แสนถุง เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาราว 2 แสนถุง ซึ่งปีหน้าบริษัทจะขยายพื้นที่การปลูกโครงการหงษ์ทองนาหยอดเพิ่มจาก 4 หมื่นไร่ เป็น 6 หมื่นไร่ ที่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาด

สำหรับภาพรวมตลาดข้าวบรรจุถุง ทุกช่องทางทั้งโมเดิร์นเทรดและร้านค้าทั่วไป มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ข้าวหอมมะลิ 50% ข้าวขาว 40% ข้าวผสม 7% และข้าวเพื่อสุขภาพ 3% ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าในเซ็กเมนต์ข้าวหอมมะลิและข้าวเพื่อสุขภาพ โดยจะบุกตลาดข้าวขาวใน เชิงรุก เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่ ปัจจุบันข้าวหงษ์ทองมีส่วนแบ่ง 10%

ขณะที่รายได้ปีหน้าตั้งเป้าหมายเติบโต 5% หรือ 2,500 ล้านบาท จากในปีนี้รายได้เติบโต 5-6% หรือ 2,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 7% แต่เนื่องจากราคาข้าวปีนี้ที่ปรับสูงขึ้น ทำให้การเติบโตในเชิงปริมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนกำไรลดลง ทำให้ภาพรวมต่ำกว่าเป้าหมาย เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมารายได้เติบโต 12-15%