posttoday

สิริเวนเจอร์สขยับสเกล ต่อยอดพร็อพเทค

04 ธันวาคม 2561

พร็อพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี หรือ "พร็อพเทค" ยังคงเป็นเครื่องมือที่สำคัญเพื่อตอบโจทย์ความต้องการอยู่อาศัยของลูกค้าในยุคดิจิทัล

โดย...อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

ตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา พร็อพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี หรือ "พร็อพเทค" ยังคงเป็นเครื่องมือที่สำคัญเพื่อตอบโจทย์ความต้องการอยู่อาศัยของลูกค้าในยุคดิจิทัล ทั้งนี้บรรดาบิ๊กดีเวลอปเปอร์ได้มีการลงทุนแสวงหาเทคโนโลยี และนวัตกรรมในรูปแบบต่างๆ ผ่านสตาร์ทอัพทั้งในและนอกประเทศ

จิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2562 ว่า บริษัทเตรียมลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อต่อยอดการลงทุนเทคโนโลยีใน 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.เทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง 2.เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน 3.เทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยและสุขภาพ ทั้งนี้คาดจะมีการลงทุนในสตาร์ทอัพโดยตรง รวมทั้งผ่านกองทุนเพิ่มอีกราว 6-8 ราย จากปัจจุบันได้ลงทุนไปแล้ว 8 ราย

สำหรับแผนการลงทุนประกอบด้วย การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ลงทุนไปแล้วมาต่อยอด เช่น การพัฒนายกระดับหุ่นยนต์แสนดีให้สามารถให้บริการได้มากกว่าการช่วยส่งพัสดุ การลงทุนใหม่ในสตาร์ทอัพและกลุ่มทุน ที่จะขยับสเกลการลงทุนในสตาร์ทอัพในระดับซีรี่ส์เอขึ้นไปซึ่งมีโปรดักต์ที่สามารถนำมาต่อยอดได้ทันที

นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพจะเริ่มขยายตลาดการสนับสนุนสตาร์ทอัพและเทคโนโลยีสู่ระดับเอเชียมากขึ้น จากในปีนี้ซึ่งเน้นสนับสนุนในประเทศไทยเป็นหลัก รวมทั้งการวิจัยและพัฒนาร่วมกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับเทรนด์ที่จะมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพที่ดี ความเป็นอยู่ที่ดี พลังงานสะอาด เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ได้เปิดตัว SIRI VENTURES Private PropTech Sandbox หรือพื้นที่ประมวลผลเสมือนจริงให้สตาร์ทอัพ ซึ่งสามารถนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาทดลองใช้จริงกับลูกบ้านในโครงการของแสนสิริ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถครอบคลุมความต้องการ รวมถึงการแก้ไขปัญหาในทุกด้านให้กับลูกบ้านโครงการและดีเวลอปเปอร์ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับธุรกิจอสังหาฯ ไทยผ่านการสร้างระบบนิเวศเพื่อการพัฒนาด้านพร็อพเทคและลิฟวิ่งเทคที่ยั่งยืนในอนาคต

นายจิรพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้เทรนด์การลงทุนในเหรียญดิจิทัลที่มีทรัพย์สินเป็นหลักประกันกำลังเป็นที่นิยมในหลายประเทศ ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสของนักลงทุนรายย่อยที่จะเข้ามาลงทุนโครงการอสังหาฯ ที่มีอยู่ได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับในการลงทุนภาคอสังหาฯ ซึ่งบริษัทมีความสนใจและอยู่ระหว่างการศึกษา

อย่างไรก็ดี ในปีนี้ได้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมของ สตาร์ทอัพ รายต่างๆ ที่ได้เข้าลงทุน นำร่องใช้กับโครงการที่อยู่อาศัยของ แสนสิริเช่น กังหันลมพลังงานไฟฟ้า แอพพลิเคชั่นสำหรับตรวจสอบงานก่อสร้าง 3 มิติแบบเรียลไทม์ การ นำสกูตเตอร์ เป็นต้น

ขณะที่ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ได้เข้าลงทุน Fifth Wall กองทุนสัญชาติอเมริกา รวมถึงการลงทุนอีก 2 สตาร์ทอัพคือ Techmetics และ Neuron

ทั้งนี้ ยังได้มีการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาพัฒนาเพื่อต่อยอดแสนสิริ โฮม เซอร์วิส แอพพลิเคชั่น คาดว่าในปีหน้าจะมีผู้ใช้บริการแอพนี้เพิ่มเป็น  2  เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.5 หมื่นราย ซึ่งลูกค้าโครงการที่มีอยู่ 8.6 หมื่นราย ทั้งนี้การขยับสเกลการลงทุนก็เพื่อให้บริษัทมีการเติบโตในทุกด้าน