posttoday

ปตท.รับมือน้ำมันป่วน

16 พฤศจิกายน 2561

ชงบอร์ด ปตท.เคาะแผน 5 ปี ตั้งรับเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่าน ขณะที่กบง.รีดเบนซิน-ดีเซล 50 สต.เข้ากองทุนน้ำมันฯ

ชงบอร์ด ปตท.เคาะแผน 5 ปี ตั้งรับเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่าน ขณะที่กบง.รีดเบนซิน-ดีเซล 50 สต.เข้ากองทุนน้ำมันฯ

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานเปิดงานสัมมนา 2018 The Annual Petroleum Outlook Forum ว่า เตรียมเสนอแผนลงทุน 5 ปี (2562-2566) เข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท.(บอร์ด ปตท.) ซึ่งจะมีการปรับแผนให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงจากหลายปัจจัย เช่น สถานการณ์ราคาพลังงานที่ผันผวนมาก การเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์ การเมืองระหว่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการเก็งกำไร ดังนั้นแผนธุรกิจหลังจากนี้จะรองรับปัจจัยเสี่ยงพร้อมปรับตัวระยะกลางนำดิจิทัลมาใช้ทางธุรกิจมากขึ้น

ขณะที่ทีมวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันกลุ่ม ปตท. หรือปริซึม เอ็กซ์เพิร์ต ได้ คาดการณ์สถานการณ์น้ำมันปี 2562 จะมีปริมาณความต้องการใช้ทั่วโลก 1.1-1.3 ล้านบาร์เรล/วัน ราคาเฉลี่ยประมาณ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของ 2 ภูมิภาคหลัก คือ เอเชีย และสหรัฐ ซึ่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้จะขยายตัว 2.9% ปี 2562 จะลดลงเหลือ 2.5% แต่อัตราการว่างงานที่ลดลงเหลือ 3.7% จะทำให้การใช้จ่ายดีขึ้น

ขณะที่เอเชียมีประเทศสำคัญ คือ จีน ที่คาดว่าจะใช้น้ำมันสูง ประกอบกับโต 6.6% ปี 2562 อาจลดลงเหลือ 6.2% จากนโยบายสหรัฐ แต่ปัจจุบันจีนส่งเสริมการบริโภคในประเทศมากขึ้น และมี นโยบายเมดอินไชน่า คือ เน้นคุณภาพ ทำให้จีนต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น ขณะที่อินเดียจากมีโอกาสที่จีดีพีจะเพิ่มจากปีนี้ที่ 7.3% เป็น 7.4% ในปีหน้า เพราะมีการกระตุ้นกำลังซื้อชนชั้นกลาง

สำหรับปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจโลกคือ มาตรการกีดกันทางการค้า ส่งผลให้เกิดการขาดดุลการค้าจีน 50% การขึ้นภาษีแล้วคิดเป็นมูลค่า 2.50 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้เศรษฐกิจโลกจะลดลง 0.2-0.4% แต่ต้องจับตาวันที่ 30 พ.ย.นี้ ที่จะมีการประชุมจี20 ซึ่งจะมีการเจรจาของ 2 ผู้นำ คือ สหรัฐ และจีน

นอกจากนี้ ในอดีต 3-4 ปี ราคาน้ำมันที่เคยพุ่งไปถึง 100 กว่าดอลลาร์ และราคาตกลงมาอย่างมาก เพราะทุกกลุ่มร่วมมือกันในการสร้างจุดสมดุลระหว่างปริมาณสำรอง (ซัพพลาย) และความต้องการใช้ (ดีมานด์) แต่ในปีนี้ราคาน้ำมันมีโอกาสกลับมาเพิ่มขึ้นคล้ายกับอดีต เพราะสหรัฐมีความพยายามกีดกันการส่งออกของอิหร่านทำให้ขาดแคลนน้ำมันสำรองไปกว่า 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน

รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนาย ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เป็นประธาน แจ้งว่า กบง.มีมติให้ปรับเพิ่มการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง อีก 50 สตางค์ (สต.)/ลิตร เพื่อเสริมสภาพเงินกองทุน น้ำมันฯ ชดเชยยอดที่ใช้ไป เพื่อรองรับความผันผวนของตลาดน้ำมันที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยจะทำให้อัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ เฉลี่ยของกลุ่มเบนซินและ แก๊สโซฮอล์อยู่ที่ 1.93 บาท/ลิตร และดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 70 สต./ลิตร ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับ 100 ล้านบาท/วัน โดยจะใช้เวลา 4 เดือน เพื่อสะสมเงินให้ครบ 1.1 หมื่นล้านบาท หลังมีการใช้ไปก่อนหน้านี้