posttoday

ขยายผลสำเร็จ"YEN-D"กรมการค้าต่างประเทศเปิดโอกาสสินค้าไทยสู่ตลาดโลก

15 กันยายน 2561

กรมการค้าต่างประเทศเล็งขยายผลความสำเร็จโมเดล"YEN-D" เพิ่มปีหน้า 3 ตลาดมาเลเซีย-อินโดนีเซียและอินเดีย วางแผนเจาะหัวเมืองใหญ่ เปิดโอกาสสินค้าไทยสู่ตลาดโลก

กรมการค้าต่างประเทศเล็งขยายผลความสำเร็จโมเดล"YEN-D" เพิ่มปีหน้า 3 ตลาดมาเลเซีย-อินโดนีเซียและอินเดีย วางแผนเจาะหัวเมืองใหญ่ เปิดโอกาสสินค้าไทยสู่ตลาดโลก

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กล่าวว่า ในปี 2562 กรมได้วางแผนขยายตลาดไปสู่ตลาดใหม่เพิ่มเติมจากตลาดในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี หลังโครงการขยายตลาดสินค้าและบริการของไทยในกลุ่มซีแอลเอ็มวี โดยเฉพาะโครงการ YEN-D ในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีทีประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเตรียมจัดโครงการ YEN-D พลัส เพิ่มใน 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซียและอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีผู้บริโภครวมกันมากกว่า 1,600 ล้านคน และมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ซึ่งจะเป็นโอกาสในการนำสินค้าไทยไปสู่ตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

“ทั้ง 3 ตลาดที่จะขยายเพิ่มนั้น เป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำลังโต โดยเฉพาะอินเดียที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ มีประชากรมาก และยังมีกลุ่มประชากรที่มีรายได้สูงอยู่มาก แต่ผุ้ประกอบการไทยยังเข้าไปน้อยมาก เนื่องจากเข้ายากเพราะ Knowwho สำคัญกว่า kknohow โดยจะเน้นเจาะเข้าไปในหัวเมืองใหญ่ๆ เช่น มุมไบ เจนไน และนิวเดลี” นายอดุลย์ กล่าว

ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้ดำเนินโครงการ YEN-D มาแล้ว 4 ปี โดยมีเครือข่ายทั้งหมด 2,400 คู่ และสามารถส้างมูลค่าการค้าได้รวมมากกว่า 3,000 ล้านบาท

สำหรับกิจกรรมล่าสุดคือ การนำคณะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทย (YEN-D) ร่วมกว่า 80 ราย ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคและบริโภค สินค้าเกษตร บริการสุขภาพ สิ่งทอแบะเครื่องนุ่งห่ม บริษัทนำเที่ยว เครื่องสำอางและแฟชั่นอสังหาริมืรัพย์ ธุรกิจรีไซเคิล ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอีคอมเมิร์ซ เดินทางมากระชับความสัมพันธ์ต่อยอดเครือข่ายธุรกิจกับผู้ประกอบการ YEN-D ของเวียดนาม

“ครั้งนี้มีผู้ประกอบการ YEN-D ทั้งของไทยและเวียดนาม มาร่วมเจราจับคู่ธุรกิจ เพื่อต่อยอดสร้างเครือข่ายระหว่างกันรวมกว่า 200 ราย โดยคาดว่าจะเกิดมูลค่าการค้าระหว่างกันภายในงานไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งเวียดนามยังเป็นตลาดที่มีการเติบโตและมีการไหลเข้าของการลงทุนต่างชาติตลอด จึงเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก” นายอดุลย์ กล่าว

ทั้งนี้ มูลค่าการค้าระหว่างประเทศไทย- เวียดนาม 7 เดือนปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.2561) อยู่ที่ 10,258 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้รจากช่วงเดียวกันปีก่อน 14% แบ่งเป็นการส่งออก 6,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โตขึ้น 13% และเป็นการนำเข้า 3,288 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โตขึ้น 18% จากช่วงเวลาเกียวกันของปีก่อน ไทยเกินดุลการค้ากับเวียดนาม 3682 ล้านเหรียญสหรัฐ

สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ เม็ดพลาสติก ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน น้ำมันดิบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์โลหะ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์

ขยายผลสำเร็จ"YEN-D"กรมการค้าต่างประเทศเปิดโอกาสสินค้าไทยสู่ตลาดโลก