แอมเวย์โดดชิงตลาดเครื่องดื่มให้พลังงาน

แอมเวย์เปิดเกมรุก คนรุ่นใหม่ เปิดตัวเอ็กซ์เอส ซีโร่ ชิมลางตลาด ก่อนขยายไปกลุ่มสินค้าเครื่องสำอางในอีก 2-3 เดือน

นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปีมากขึ้น เพราะเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ โดยสินค้าตัวแรกที่บริษัทจะนำเข้ามาทำตลาดเพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างจริงจัง คือเครื่องดื่มให้พลังงานภายใต้แบรนด์ เอ็กซ์เอส ซีโร่ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากมาเลเซียในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เปิดตัวสินค้าดังกล่าวเข้ามาทำตลาด

สำหรับแผนการทำตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานเอ็กซ์เอส ซีโร่ ในช่วงแรกของปีนี้ บริษัทจะเน้นไปที่การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับการทำกิจกรรมในสถานที่ต่างๆ

ขณะเดียวกันก็จะมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์และทำกิจกรรมการตลาดผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งทั้งสองกิจกรรมดังกล่าวบริษัทได้เตรียมงบการตลาดเบื้องต้นไว้ที่ประมาณ 40 ล้านบาท สำหรับการทำตลาดในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้

ทั้งนี้ ในส่วนของช่องทางจำหน่ายบริษัทยังคงเน้นการขายผ่านเครือข่ายและสมาชิกของแอมเวย์เป็นหลัก เนื่องจากบริษัททำธุรกิจขายตรง จึงจะต้องเน้นการจำหน่ายในช่องทางดังกล่าว ซึ่งบริษัทก็มั่นใจว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดี

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีเครือข่ายแอมเวย์อยู่ที่ 3.3 แสนราย และมีสมาชิก แอมเวย์ทั่วประเทศอยู่ที่ 7 แสนราย โดยในสิ้นปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายให้กับเครื่องดื่มให้พลังงาน ภายใต้แบรนด์เอ็กซ์เอส ซีโร่ ได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท

"เครื่องดื่มให้พลังงานเอ็กซ์เอส ซีโร่ ถือกำเนิดมาได้ 10 ปีแรก เริ่มจากตลาดในอเมริกา การที่บริษัทเพิ่งนำ เครื่องดื่มดังกล่าวเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยปีนี้ เพราะบริษัทและตลาดเพิ่งมีความพร้อม โดยการทำตลาดในช่วงแรกบริษัทได้เลือกสินค้าจำนวน 2 รสชาติที่คนไทยชื่นชอบเข้ามาทำตลาดก่อน จากทั้งหมดประมาณ 10 รสชาติ เพื่อให้คนไทยเกิดการทดลองดื่มและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้ง่าย" นายกิจธวัช กล่าว

ปัจจุบันตลาดรวมเครื่องดื่มให้พลังงานงานของไทยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 3% ซึ่งในมูลค่าดังกล่าวแบ่งเป็นตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานระดับพรีเมียมประมาณ 4% หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยในส่วนของแบรนด์เอ็กซ์เอส ซีโร่ จะเข้าไปทำตลาดดังกล่าว

นายกิจธวัช กล่าวอีกว่า หลังจากเปิดตัวสินค้าดังกล่าวในอีก 2-3 เดือนนับจากนี้ จะเปิดตัวสินค้าเครื่องสำอางสำหรับคนรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม เพื่อให้อีก 5 ปีนับจากนี้มีสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มคนรุ่นใหม่อยู่ที่ 50% จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 35%