สยามพิวรรธน์ ย้ำโตยั่งยืน เล็งซื้อที่เพิ่มต่อยอดเอาต์เลต

โดย...จะเรียม สำรวจ

ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมา บริษัท สยามพิวรรธน์ ได้ดำเนินงานตามทิศทางและกลยุทธ์ด้านการลงทุนที่เคยประกาศไว้ให้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพระดับพรีเมียมในไพรม์ โลเกชั่น เน้นการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ  ทั้งโครงการที่เกี่ยวกับความบันเทิงระดับโลก ศิลปวัฒนธรรม และธุรกิจค้าปลีกหลายๆ ประเภท โดยทุกโครงการจะต้องเพิ่มมูลค่าและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจของคู่ค้า ชุมชน และประเทศชาติ

ชลชาติ เมฆสุภะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและการลงทุน บริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า บริษัทมุ่งเน้นการจับมือกับพันธมิตรระดับแนวหน้าของโลกที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นตัวจริงในแต่ละธุรกิจ เพื่อร่วมลงทุนทำธุรกิจที่แปลกใหม่หรือไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย รวมไปถึงการแตกไลน์
ธุรกิจค้าปลีกใหม่อย่างเช่น ธุรกิจแฟชั่น เครื่องสำอาง  อาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงธุรกิจจัดประชุมสัมมนา

หนึ่งในก้าวย่างสำคัญของบริษัท สยามพิวรรธน์ ในการพัฒนาธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้นในปีนี้ คือ การผนึกกำลังกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของโลกอย่าง ไซม่อน ในการสร้างโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านช็อปปิ้ง กินดื่ม บันเทิง และมิกซ์ยูส ผ่านลักซ์ชัวรี่พรีเมียมเอาต์เลตในประเทศไทย ซึ่งจะเริ่มลงเสาเข็มก่อสร้างในอีก 2 เดือนนับจากนี้

แผนการก่อสร้างดังกล่าวจะมาพร้อมชื่อของโครงการ และโลเกชั่น ซึ่งขณะนี้บริษัท สยามพิวรรธน์ ยังขอเก็บเป็นความลับ เบื้องต้นบริษัท สยามพิวรรธน์ คาดการณ์ว่าการก่อสร้างเอาต์เลตที่ร่วมทุนกับไซม่อนในครั้งนี้จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2562 อย่างแน่นอน

ด้วยศักยภาพของโครงการที่ตั้งอยู่บนที่ดินถึง 150 ไร่ ในทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ส่งผลให้ปัจจุบันเริ่มมีพันธมิตรจากหลากหลายธุรกิจเข้ามาขอเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้มีผู้ประกอบการเข้ามาร่วมพูดคุยแล้ว 2-3 ราย เพื่อเข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในระดับราคา 7-8 ล้านบาท โดยที่ดินที่แต่ละรายต้องการ คือ 50 ไร่ขึ้นไป

นอกจากจะมีที่อยู่อาศัยภายในโครงการแล้ว บริษัท สยามพิวรรธน์ ยังมีความตั้งใจที่จะมีบริการด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ หรือแอทแทรคชั่นอยู่ภายในโครงการดังกล่าวด้วย เพื่อให้บริการมีความครบวงจรมากขึ้น ซึ่งจากแนวทางดังกล่าวทำให้บริษัท สยามพิวรรธน์ มีแผนที่จะทำการซื้อที่ดินเพิ่มเติม

หลังจากเปิดให้บริการโครงการเอาต์เลตปลายปี 2562 สยามพิวรรธน์ มั่นใจว่าจะได้ผลตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างดีเหมือนกับหลายแห่งที่เปิดให้บริการไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ WOODBURY COMMON PREMIUM OUTLETS (NEW YORK), GOTEMBA PREMIUM OUTLETS (TOKYO) หรือ AND JOHOR PREMIUM OUTLETS (MALAYSIA) เนื่องจากมีร้านค้าลักซ์ชัวรี่แบรนด์ แบรนด์ของดีไซเนอร์ แบรนด์ระดับอินเตอร์เนชั่นแนล และแบรนด์ไทยต่างๆ ที่จะมามอบส่วนลด 25-70% ทุกวันให้ลูกค้า