ปตท.มั่นใจซื้อ"โกลว์"เป็นธรรม

ปตท.รอลุ้นกรรมการกำกับกิจการพลังงานเคาะผลจีพีเอสซีซื้อโกลว์ ย้ำหากดีลสำเร็จจะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าอันดับ 3 ของประเทศ

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. แถลงว่า ปตท.กำลังรอคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณาประเด็นอำนาจเหนือตลาดกรณีบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (จีพีเอสซี) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ปตท. เข้าซื้อหุ้นบริษัท โกลว์ พลังงาน ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าหากการซื้อโกลว์แล้วเสร็จจะทำให้จีพีเอสซีเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าสูงสุดอันดับ 3 ของประเทศ มีกำลังการผลิต 4,835 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน 1,940 เมกะวัตต์

“กกพ.จะบอกว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าเดินต่อได้ก็ไป ถ้าเดินต่อไม่ได้ก็เคารพกติกา หากดีลนี้ไม่สำเร็จทางจีพีเอสซีก็มีแผนรองรับอยู่แล้ว การที่จีพีเอสซีมีกำลังการผลิตไฟเพียงพันกว่าเมกะวัตต์ เรามีอำนาจเหนือตลาดหรือไม่ และโกลว์มีกำลังการผลิตไฟสามพันกว่าเมกะวัตต์ป้อนลูกค้าในนิคมฯ ซึ่งขายไฟเข้าระบบน้อยมาก ดังนั้นสิ่งที่ทุกคนกังวลว่าจีพีเอสซีจะสร้างความได้เปรียบ ไม่เป็นธรรม ไม่อยากให้คิดแบบนั้น เพราะการซื้อกิจการดังกล่าวจะช่วยให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง” นายชาญศิลป์ กล่าว

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคัดเลือกพันธมิตรร่วมลงทุนจำนวน 2 ราย จากเดิมพิจารณาอยู่กว่า 10 ราย ซึ่ง ปตท.จะลงทุน 1-2 หมื่นล้านบาท ดำเนินการในนามบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ แต่ยังไม่รีบตัดสินใจในขณะนี้ว่าจะจับมือกับใคร

นอกจากนี้ ปตท.จะร่วมกับบริษัท กรุงเทพธนาคม ศึกษาแนวทางพัฒนาธุรกิจและสร้างนวัตกรรมทางด้านพลังงานและดิจิทัลเทคโนโลยีเป็นพื้นฐานในการให้บริการ สร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจและการให้บริการ เพื่อพัฒนากรุงเทพฯ เมืองอัจฉริยะ ทั้งด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและการขนส่งมวลชน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0

ทั้งนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เรียกร้องให้จีพีเอสซียกเลิกการซื้อหุ้นโกลว์โดยอ้างว่าจะมีอำนาจเหนือตลาด