ความช่วยเหลือจาก "ธุรกิจพลังงาน" อีกหนึ่งเบื้องหลังของภารกิจถ้ำหลวง

ความช่วยเหลือจากภาคธุรกิจในประเทศไทยที่ถูกส่งไปยังถ้ำหลวงนั้น เป็นอีกหนึ่งเบื้องหลังสำคัญที่ช่วยให้ภารกิจช่วยทีมหมูป่าประสบความสำเร็จ

******************************

ภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ไม่ได้มีแค่เฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ และอาสาสมัครกู้ภัยจากทั่วโลกเท่านั้น ยังมีภาคเอกชนที่ร่วมส่งบุคลากรและอุปกรณ์ที่มีความพร้อมและเชี่ยวชาญเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการให้ราบรื่นมากขึ้น

ต่อไปนี้คือแรงสนับสนุนของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานใหญ่ของไทย

เชฟรอนจัดเต็มวิศวกร-ผู้ชำนาญการและอุปกรณ์

เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้จัดหาและมอบอุปกรณ์รวมทั้งได้ส่งบุคลากรของบริษัทฯ เพื่อร่วมสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ ประกอบไปด้วย

• ภารกิจดำน้ำ

สนับสนุนของกองทัพเรือโดยจัดส่งอุปกรณ์การดำน้ำ และบุคลากร 3 ท่าน ซึ่งเป็นอดีตหน่วยซีลและเป็นอาจารย์ฝึกสอนการดำน้ำจากศูนย์เศรษฐพัฒน์ จ.สงขลา ไปสนับสนุนภารกิจดำน้ำของหน่วยซีลในถ้ำหลวง

• ภารกิจลดระดับน้ำในถ้ำ

สนับสนุนกรมชลประทานและกรมทรัพยากรธรณีโดยจัดส่งทีมวิศวกรก่อสร้างและโครงสร้าง นักธรณีวิทยา วิศวกรไฟฟ้า วิศวกรชำนาญการด้านการขุดเจาะ ช่างเทคนิค รวมถึงจัดส่งอุปกรณ์ อาทิ ท่อยางระบายน้ำขนาดใหญ่ ความยาวกว่า 3,000 เมตร ร่วมในการสร้างฝายและทางผันน้ำที่ถ้ำผาหมีและถ้ำผาฮี้ ซึ่งสามารถช่วยลดระดับน้ำในถ้ำหลวงได้อย่างต่อเนื่อง

• ภารกิจร่วมวางแผนทางเลือกการช่วยเหลืออื่นๆ

จัดส่งวิศวกรชำนาญการด้านการขุดเจาะซึ่งมีประสบการณ์การทำงานในหลายภูมิภาคทั่วโลก และนักธรณีวิทยา เพื่อร่วมประชุมกับหน่วยงานภาครัฐและเตรียมแผนทางเลือกในการช่วยเหลือด้วยแนวทางอื่นๆ อาทิ การค้นหาโพรงและขุดเจาะอุโมงค์ เป็นต้น

บุคลากรของเชฟรอนที่ได้เดินทางไปร่วมปฏิบัติงานในพื้นที่มีจำนวนรวม 34 คน ประกอบไปด้วย วิศวกรก่อสร้างและโครงสร้าง วิศวกรไฟฟ้า นักธรณีวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำ ช่างเทคนิค เจ้าที่สนับสนุนและจัดหาอุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่กิจการสัมพันธ์

นอกจากนี้ ได้จัดตั้งหน่วยบัญชาการสนับสนุนการปฏิบัติงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งร่วมทำงานโดยพนักงานเกือบ 60 คนจากเกือบทุกแผนกเพื่อทำหน้าที่ประสานงานจัดหาอุปกรณ์และความช่วยเหลืออื่นๆ ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดการสนับสนุนของเชฟรอนในกรณีเหตุการณ์ถ้ำหลวง

บุคลากรเชฟรอน

• มีพนักงานรวม 34 คน (จากเชฟรอนและบริษัทผู้รับเหมา) ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือในพื้นที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ประกอบไปด้วย

- วิศวกรโครงสร้างและก่อสร้าง 6 คน

- วิศวกรไฟฟ้า 3 คน

- นักธรณีวิทยา 3 คน

- วิศวกรชำนาญการขุดเจาะ 1 คน

- เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดหาวัสดุ-อุปกรณ์ 1 คน

- เจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการสัมพันธ์ 1 คน

- ผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำจากศูนย์เศรษฐพัฒน์ 3 คน

- ช่างเทคนิคฯ และเจ้าหน้าที่สนับสนุน จากบริษัทผู้รับเหมา 16 คน

ปตท.ส่งน้ำมัน-ก๊าซ และเทคโลยีการค้นหา

ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของเมืองไทย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. (PTTEP) นำเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน เข้าช่วยเหลือในภารกิจบินสำรวจพื้นที่สำหรับทำแผนที่ทางอากาศและวิเคราะห์สภาพถ้ำเพื่อนำข้อมูลมาวางแผนช่วยเหลือ รวมทั้งเตรียมหุ่นยนต์อีก 3 ชนิด ได้แก่ ยานยนต์ใต้น้ำควบคุมระยะไกลขนาดเล็ก หุ่นยนต์ตรวจสอบภายในท่อ และหุ่นยนต์ใต้น้ำอัตโนมัติไร้สาย ที่มีโซนาร์สแกนเนอร์ สามารถตรวจจับสิ่งของต่างๆ ได้แม้ในสภาพน้ำขุ่น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม

โดยสรุปตลอดภารกิจมีการสนับสนุนดังนี้

น้ำมันดีเซล-ก๊าซ

- จัดส่งน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. – ปัจจุบัน 9 ก.ค. 26,000 ลิตร รวมเป็นเงิน 774,560 บาท

- สนับสนุนก๊าซ LPG 15 กก. โดยจัดส่งก๊าซ 15 กก. 5 ถัง/วัน ให้กับโรงครัวพระราชทานฯ

- สนับสนุนก๊าซ LPG 48 กก. ให้กับหน่วยงานในพื้นที่ โดยจัดส่ง 3 วันต่อ 1 ถัง

สนับสนุนเทคโลยีการค้นหาและช่วยเหลือ

- PTTEP สนับสนุน MPIO เพื่อทำแผนที่ทางอากาศ งานระบายน้ำออกจากถ้ำ งานต่อท่อเพิ่มออกวิเจนภายในถ้ำและงาน Drilling เจาะหลุดเพื่อระบายน้ำและเพิ่มอากาศภายในถ้ำ

สนับสนุนท่อ HDPE สูบ

- ทีมวิศวกรจาก PTT และ PTTNGD รวม 7 คน นำท่อ HDPE 4 นิ้ว ความยาว 1,500 เมตรดำเนินการ 2 จุดบริเวณถ้ำและดอยผาหมี

นอกจากนี้ในสเต็ปต่อไปได้ตั้งงบประมาณเตรียมการช่วยเหลือฟื้นฟู 200,000 แสนบาท