posttoday

โฆษณาปี'61ส่อติดลบ

05 กรกฎาคม 2561

วายดีเอ็ม คาดภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาปีนี้ยังแย่ สิ้นปีอาจติดลบเกือบ 10% ล่าสุดร่วมทุนพันธมิตรขยายธุรกิจเสริมแกร่ง

วายดีเอ็ม คาดภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาปีนี้ยังแย่ สิ้นปีอาจติดลบเกือบ 10% ล่าสุดร่วมทุนพันธมิตรขยายธุรกิจเสริมแกร่ง

นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาสิ้นปี 2561 คาดจะชะลอตัวใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา หรือมีการขยายตัวติดลบใกล้เคียงที่ 10% เนื่องจาก ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงชะลอการใช้งบซื้อสื่อโฆษณา โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าความงาม เพราะปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายเล็กเข้ามาทำธุรกิจความงามของ ตัวเองมากขึ้น ทำให้เกิดการแย่งกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ เมื่อขายสินค้าได้ลดลง จึงทำให้ต้องลดงบการใช้สื่อ

สำหรับโฆษณาที่ยังน่าเป็นห่วงยังคงเป็นในส่วนของสื่อสิ่งพิมพ์ ส่วนสื่อที่มีแนวโน้มการขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ สื่อดิจิทัล เห็นได้จากภาพรวมของสื่อโฆษณาดิจิทัลในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ส่งผลให้ปี 2560 ที่ผ่านมาภาพรวมสื่อโฆษณาดิจิทัลมีมูลค่าอยู่ที่ 1.24 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ จากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวบริษัทจึงเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจเข้ามาในส่วนของดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ด้วยการแตกบริษัทในเครือออกมา 7 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท แอดยิ้ม ให้บริการในด้านของการทำตลาดออนไลน์, บริษัท ก็อตติไมซ์ ให้บริการในด้านของการวางแผนและซื้อสื่อโฆษณาออนไลน์, บริษัท อัลติเมท65 ให้บริการในด้านของการทำรีวิวสินค้า, บริษัท แอดพ็อคเกต ให้บริการในด้านของการทำโฆษณาหน้าจอมือถือ, บริษัท ดูเออร์ ให้บริการแพลตฟอร์มรับพัฒนาซอฟต์แวร์, บริษัท เอวีจี ให้บริการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเจาะตลาดจีน และบริษัท นวิน ให้บริการด้านครีเอทีฟ ทำภาพยนตร์โฆษณา

อย่างไรก็ดี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในอีก 3 ปี ล่าสุดบริษัทได้จับมือร่วมกับกลุ่มทุน 3 บริษัท คือ บริษัท อินทัช, ธนาคารออมสิน และตลาดหลักทรัพย์ฯ ระดมทุน 90 ล้านบาท เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ

"หลังจากได้พันธมิตรเข้ามาร่วมธุรกิจบริษัทมีแผนที่จะตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่อีก 1 บริษัท เพื่อดำเนินธุรกิจด้านอินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจการทำตลาดในรูปแบบดังกล่าวเพิ่มขึ้น เบื้องต้นคาดว่าภายในไตรมาส 3 นี้น่าจะพร้อมเปิดตัว" นายธนพล กล่าว

นายธนพล กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวทำให้บริษัทมีบริการที่ครบวงจรมากขึ้น และพาบริษัทไปสู่ เป้าหมายที่วางไว้ คือ การนำบริษัทเข้า จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวบริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท จากสิ้นปี 2561 นี้คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 380 ล้านบาท ซึ่งหลังนำบริษัทเข้าจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เรียบร้อย บริษัท จะเริ่มดำเนินการขยายธุรกิจไปในตลาดต่างประเทศทันที