posttoday

ผุดร้านคาเฟ่เนสกาแฟ ชิมลางสาขาแรกบีทีเอสชิดลม

04 กรกฎาคม 2561

เนสกาแฟ สบช่องธุรกิจกาแฟนอกบ้านโต โดดร่วมศึกร้านชงพร้อมดื่ม เนสกาแฟ ฮับ ในไทย หลังสำเร็จที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และมาเลเซีย

เนสกาแฟ สบช่องธุรกิจกาแฟนอกบ้านโต โดดร่วมศึกร้านชงพร้อมดื่ม เนสกาแฟ ฮับ ในไทย หลังสำเร็จที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และมาเลเซีย

นายแวลดดิสลาฟ อังดรีฟ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์กาแฟและ ครีมเทียม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มของการบริโภคกาแฟ นอกบ้านในประเทศไทยที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปี 2560 ตลาดกาแฟบริโภค นอกบ้านมีมูลค่าตลาดสูงถึง 2.67 หมื่นล้านบาท เติบโต 8% ซึ่งในมูลค่าดังกล่าวเป็นการบริโภคผ่านช่องทางร้านกาแฟและคาเฟ่คิดเป็นมูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโต 15.7% และเป็นการบริโภคผ่านช่องทางจุดศูนย์กลางการเดินทางต่างๆ มากกว่า 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากแนวโน้มการเติบโตที่ดี ดังกล่าว บริษัทจึงมองเห็นโอกาส ด้วยการเปิดตัวร้านกาแฟ "เนสกาแฟ ฮับ" ขึ้นมาที่สถานีบีทีเอส ชิดลม เพื่อเป็นการทดลองตลาดสาขาแรกในเมืองไทย หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดร้านกาแฟเนสกาแฟ ฮับ ที่ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และมาเลเซีย จนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีมาแล้ว โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นปัจจุบันมีการเปิดร้านกาแฟเนสกาแฟ ฮับมากถึง 50 สาขา

"การที่บริษัทเลือกบีทีเอสสถานี ชิดลมเป็นสาขาแรก เพราะเป็นสถานีที่อยู่ใจกลางเมือง เป็นแหล่งที่มีอาคารสำนักงานและห้างค้าปลีกจำนวนมากเปิดให้บริการ ซึ่งหากการเปิดให้บริการแล้วลูกค้าให้ผลการตอบรับดี บริษัทก็จะทำการเปิดให้บริการสาขาต่อไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาทำเลที่มีความเหมาะสม" นายอังดรีฟ กล่าว

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของร้านกาแฟ เนสกาแฟ ฮับ จะเน้นไปที่กลุ่มคนทำงานที่อยู่ในย่านชิดลมและใกล้เคียง รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาช็อปปิ้งซื้อสินค้าใน ห้างค้าปลีกในย่านชิดลม ซึ่งในส่วนของอัตราบริการค่าเครื่องดื่มภายในร้านกาแฟ เนสกาแฟ ฮับนั้น จะเริ่มต้นที่แก้วละ 45 บาท สำหรับเครื่องดื่มร้อน ขณะที่เครื่องดื่มเย็นจะเริ่มต้นราคาที่ประมาณ 55 บาท

นายอังดรีฟ กล่าวอีกว่า หลังจากเปิดให้บริการร้านกาแฟเนสกาแฟ ฮับ บริษัทคาดจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการซื้อเครื่องดื่มภายในร้านวันละไม่ต่ำกว่า 350 แก้ว เนื่องจากสถานีบีทีเอสชิดลมมีจำนวน ผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการต่อวันประมาณ 1.5 หมื่นคน คาดจะเข้าถึงผู้สัญจร 1.5 หมื่นคน/วัน และสร้างยอดขายได้มากกว่า 300 แก้ว/วัน

ด้านภาพรวมตลาดกาแฟในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตที่ 4% จากปี 2560 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 6.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งในส่วนของตลาดกาแฟทรีอินวัน เนสกาแฟยังคงเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 60% ของเซ็กเมนต์ทรีอินวัน เช่นเดียวกับกาแฟสำเร็จรูปมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 80% และกาแฟกระป๋องมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 32% ของกาแฟกระป๋อง