posttoday

ไทยออยล์ทุ่มแสนล้าน ลุยพลังงานสะอาดเพิ่มคุณค่าขยายกลั่นหลากหลาย

01 กรกฎาคม 2561

บอร์ดไทยออยล์ อนุมัติแผนลงทุนใหญ่ 1.65 แสนล้าน เมื่อ 29มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมชงขอมติผู้ถือหุ้น 27 ส.ค.นี้

บอร์ดไทยออยล์ อนุมัติแผนลงทุนใหญ่ 1.65 แสนล้าน เมื่อ 29มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมชงขอมติผู้ถือหุ้น 27 ส.ค.นี้

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ (TOP) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทได้อนุมัติเห็นชอบการลงทุนโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project) หรือ CFP ทำให้บริษัทต้องใช้งบลงทุน 1.65 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ งบดังกล่าวจะแบ่งเป็นงบลงทุนโครงการทั้งหมดประมาณ 1.6 แสนล้านบาท หรือ 4,825 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นดอกเบี้ยระหว่างการก่อสร้างประมาณ 5,016 ล้านบาท หรือ 151 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนวันที่ 28 มิ.ย.อยู่ที่ 33.22 บาท/ดอลลาร์

สำหรับโครงการ CFP มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และขยายกำลังการกลั่นน้ำมันเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้สามารถกลั่นน้ำมันดิบได้มากและหลากหลายชนิดขึ้น อีกทั้งยังจะช่วยก่อให้เกิดการประหยัดด้านขนาด (Economies of Scale) และลดต้นทุนวัตถุดิบ นอกจากนี้จะยังช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวอีกด้วย

อย่างไรก็ดี โครงการนี้ถือเป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัท โดยมีขนาดของรายการสูงสุดเท่ากับ 68.58% ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าของสินทรัพย์รวมของบริษัท ซึ่งจะต้องได้รับคะแนนเสียงจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน

ดังนั้น แผนลงทุนดังกล่าวจะต้องรอการอนุมัติจากการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่คาดจะมีขึ้นในวันที่ 27 ส.ค.นี้ก่อน โดยบริษัทแต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับการลงทุนโครงการ CFP แก่ผู้ถือหุ้น

นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งเห็นชอบให้กรมธนารักษ์ต่อสัญญาการเช่าที่ดินราชพัสดุ ต.บางพระ และทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พื้นที่ 1,499 ไร่ ให้กับไทยออยล์ออกไปอีก 30 ปี เพื่อดำเนินกิจการโรงกลั่นตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยต้องชำระค่าตอบแทนให้รัฐในวงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาเช่าในวันที่ 10 ก.ย. 2595 จากเดิมที่จะครบอายุสัญญาเช่าในวันที่ 10 ก.ย. 2565 ทั้งนี้หากบริษัทมีการดำเนินโครงการ หรือมีกิจการใดๆ เพิ่มจะต้องมีการทบทวนค่าตอบแทนดังกล่าวเพิ่มตามไปด้วย