สหพัฒน์ลุย ผนึกพันธมิตรข้ามชาติ

โดย...จะเรียม สำรวจ

ยังคงเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรใน การขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สำหรับเครือสหพัฒน์ ล่าสุดได้มีการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ 4 ราย เพื่อร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยรายแรกที่ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือกันภายในงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 22 คือการลงนามความร่วมมือในโครงการ "Bellmark Activity and Mikke Project." ระหว่างบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์ โฮลดิ้ง กับกลุ่มฮาคุโคโด และกลุ่มอาซาฮี ชิมบุน เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนหาอุปกรณ์การเรียนการสอน "Bellmark" ซึ่งเป็น ตราสัญลักษณ์ที่ติดอยู่กับสินค้าและ บริการ

รายต่อมาที่ได้มีการเซ็นสัญญาความร่วมมือกันคือ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง กับบริษัท โคเมเฮียว (Komehyo) เพื่อเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในการนำร้านโคเมเฮียว ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้า แบรนด์เนมมือสองชื่อดังของญี่ปุ่น เข้ามาเปิดให้บริการในไทยเป็นประเทศแรกใน อาเซียน หลังจากก่อนหน้านี้ได้เข้าไปเปิดตลาดในประเทศจีนและฮ่องกงมาแล้ว

วิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง กล่าวว่า ร้านโคเมเฮียวถือเป็นร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมมือสองที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และจากการที่มีคนไทยเข้าไปใช้บริการในร้านดังกล่าวเป็นจำนวนมาก บริษัท โคเมเฮียว เลยเล็งเห็นโอกาสในการนำร้านโคเมเฮียวเข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าคนไทย

ปัจจุบันร้านโคเมเฮียวมีจำนวน สาขาเปิดให้บริการในเมืองหลักของญี่ปุ่น 3 เมือง คือ นาโกยา ชินจูกุ และโอซากา ส่วนในต่างประเทศปัจจุบันมี 1 แห่งที่ฮ่องกง และกำลังจะเปิดเพิ่มอีก 1 แห่งที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนในไทยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหาทำเลที่มีความเหมาะสม คาดว่าภายในปี 2562 น่าจะหาทำเลในกรุงเทพฯ พร้อมเปิดให้บริการได้

อีกหนึ่งพันธมิตรที่ได้มีการ เซ็นสัญญาความร่วมมือกันคือ บริษัท เพนส์ มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ ดิสทริบิวชั่น และบริษัท ดาวเฮือง กรุ๊ป โดยบริษัท ดาวเฮือง จะทำการแต่งตั้งให้บริษัท เพนส์ฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายกาแฟมิกซ์คอฟฟี่ หรือกาแฟทรีอินวัน กาแฟ สำเร็จรูป กาแฟควบคุมน้ำหนัก และ ผลไม้อบแห้ง ผ่านช่องทางจำหน่ายของบริษัท เพนส์ฯ

เพ็ญนภา ธนสารศิลป์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพนส์ มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ ดิสทริบิวชั่น กล่าวว่า แผนการทำตลาดสินค้าของบริษัท ดาวเฮือง กรุ๊ป นับจากนี้บริษัทจะทำการกระจายสินค้าไปยังช่องทางขายต่างๆ ที่บริษัทมีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นช่องทางห้างค้าปลีก หรือร้านค้าทั่วไปที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ เนื่องจากบริษัทมีเป้าหมายว่าภายในปี 2020 หรือปี 2563 ผลิตภัณฑ์กาแฟของบริษัท ดาวเฮือง กรุ๊ป จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

ด้าน บุนเฮือง แครอล ลิดดังประธานบริษัท ดาวเฮือง กรุ๊ป จาก สปป.ลาว กล่าวว่า หลังบริษัทได้บริษัท เพนส์ฯ มาเป็นผู้จัดจำหน่ายให้ในปีนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ดาวคอฟฟี่มากขึ้น เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งนอกจากให้ความสำคัญกับตลาดไทย บริษัทยังลุยขยายธุรกิจในประเทศอื่นๆ เพื่อให้สิ้นปีมีรายได้รวมโตมากกว่า 15%