แอลจีบุกหนักตลาดทีวี เกาะกระแสบอลโลกลุยเปิดตัว33รุ่น เร่งยอดขาย2.3หมื่นล้าน

แอลจีชูทีวีสินค้าเรือธง ครึ่งปีหลัง เปิดตัว 33 รุ่น เป็นเทคโนโลยีเอไอ 26 รุ่น เร่งโกยยอดขายทั้งปี 2.3 หมื่นล้าน

นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลค ทรอนิคส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังของปีนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภททีวีจะเป็นสินค้าหลักที่บริษัทจะใช้บุกตลาด โดยจะเปิดตัว 33 รุ่น ในจำนวนนี้ 26 รุ่นเป็นทีวีที่มีเทคโนโลยีเอไอ (Artificial Intelligence) ซึ่งสามารถสั่งงานได้ด้วยเสียงและเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ซึ่ง 5 รุ่นเป็นสมาร์ททีวีและ 2 รุ่นเป็นรุ่นปกติ เนื่องจากเทคโนโลยีทางด้านภาพและเสียงนั้นเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ประกอบด้วยอยู่ในช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกซึ่งเชื่อว่าจะผลักดันให้ตลาดทีวีเติบโต

ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรกสินค้าประเภท เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ ได้รับการตอบรับที่ดี โดยมีการเปิดตัว สินค้าโดยรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 40 รุ่น โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมอยู่ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งตั้งเป้าเติบโตขึ้น 15% จากปัจจุบันทำยอดขายได้แล้ว 55% ของเป้าโดยสัดส่วนยอดขายนั้นจะมาจาก ทีวี 40% เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่ ตู้เย็น เครื่องซักผ้าและเครื่องดูดฝุ่น สัดส่วน 30% เครื่องปรับอากาศ 20% และการขายสินค้าผ่านช่องทางธุรกิจหรือ B2B 10%

ขณะเดียวกัน บริษัทจะจัดโปรโมชั่น มากขึ้น เช่น ผ่อน 0% นาน 24 เดือนกับสถาบันการเงินประเภทนันแบงก์ เป็นต้น

สำหรับภาพรวมตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ามีมูลค่าไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท คาดว่าปีนี้จะเติบโตได้ 3-5% เนื่องจากได้แรงหนุนจากการผลักดันเรื่องเทคโนโลยีรับกับดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ  จากปีก่อนสภาพตลาดนั้นค่อนข้างทรงตัวไม่มีปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจมากระตุ้นตลาดมากนัก

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้รวมกับบริษัท แสนสิริ นำเสนอสมาร์ท โฮม โซลูชั่น ด้วยเทคโนโลยีผ่านสมาร์ท ธิงคิว (Smart ThinQ) เช่น การสั่งงานทีวีด้วยเสียง การสั่งงานเครื่องใช้ภายในบ้านผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน โดยมีสินค้าที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อาทิ เครื่องซักผ้า รุ่น LG TWINWash ราคา 6.49 หมื่นบาท ตู้เย็น รุ่น LG Instaview Door-in Door ราคา 6.9 หมื่นบาท โทรทัศน์ LG  OLED TV รุ่น OLED 65B8P ราคา 1.19 แสนบาท โดยได้นำมาทำกิจกรรมการตลาดผ่านลูกบ้าน 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการเศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ ประชาชื่น 2 เศรษฐสิริ พหลฯวัชรพล เศรษฐสิริ ปิ่นเกล้า กาญจนา เศรษฐสิริ ทวีวัฒนา และโครงการ ดีคอนโด หาดใหญ่ ภายใต้โปรแกรมแอลจี พรีเมียม เซอร์วิส

ด้าน นายสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาโครงการ บริษัท แสนสิริ กล่าวว่า ในยุคดิจิทัลผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะต้องพยายามหาเทคโนโลยีมาตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกบ้าน ซึ่งสินค้าที่แอลจีนำเข้ามาทำการตลาดนั้นจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่ส่วนใหญ่ ยังไม่ได้มีการเปิดตัว นำมาเปิดขายให้ ลูกบ้านในราคาพิเศษ ซึ่งจะเป็นการ ยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้า ร่วมกัน