posttoday

โตโต้ผุดโรงงานแห่ง3 ทุ่ม1,073ล้านบาทผลิตส่งออกทั่วโลก

25 พฤษภาคม 2561

โตโต้ตั้งเป้าโต 20% ต่อเนื่อง 5 ปี เล็งขยายสู่กลุ่มไฮเอนด์มากขึ้น ทุ่ม 1,073 ล้าน ผุดโรงงานแห่งที่ 3 ในไทยรับตลาดพุ่ง

โตโต้ตั้งเป้าโต 20% ต่อเนื่อง 5 ปี เล็งขยายสู่กลุ่มไฮเอนด์มากขึ้น ทุ่ม 1,073 ล้าน ผุดโรงงานแห่งที่ 3 ในไทยรับตลาดพุ่ง

นายฮิโรยูกิ ซูซูกิ ประธานบริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์ก๊อกน้ำและอุปกรณ์ในห้องน้ำ แบรนด์ "โตโต้" (TOTO) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าเติบโตไม่น้อยกว่า 20% ต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2560-2565 จากการขยายตลาดกลุ่ม ซูเปอร์ไฮเอนด์สู่กลุ่มไฮเอนด์มากขึ้น พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยคาดว่าภายในปี 2565 จะมียอดขายเติบโตขึ้น 1 เท่าตัวจากปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้ใช้เงินลงทุน 1,073 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานผลิตฝารองนั่งอัตโนมัติ (Washlet) ซึ่งเป็นโรงงานแห่งที่ 3 ในประเทศไทย โดยตั้งอยู่ที่เขตประกอบอุตสาหกรรม เอช เอส ไอ แอล จ.สระบุรี บนพื้นที่ราว 4.9 หมื่นตารางเมตร (ตร.ม.) กำลังการผลิตสูงสุด 4.5 แสนชิ้น/ปี คาดเริ่มเดินสายพานการผลิตปี 2563

สำหรับโรงงานดังกล่าวในช่วงเริ่มต้นจะเป็นการผลิตเพื่อส่งออก 100% ไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อกระจายการจำหน่ายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก จากนั้นจะวาง จำหน่ายในไทย ซึ่งการตั้งโรงงานดังกล่าวในไทยเนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของซัพพลายเชนด้านอิเล็กทรอ นิกส์ เนื่องจากฝารองนั่งอัตโนมัติดังกล่าวมีส่วนประกอบของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากกว่า 200 ชิ้น

ขณะที่ความต้องการฝารองนั่งอัตโนมัติที่มากขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียและสหรัฐยังเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลให้บริษัทต้องขยายกำลังการผลิตฝารองนั่งอัตโนมัติ ที่เดิมมีโรงงานผลิตอยู่ที่ญี่ปุ่น จีน และมาเลเซีย อีกทั้งการตั้งโรงงานในไทยจะเป็นอีกหนึ่งปัจัยที่จะส่งผลให้บริษัทบรรลุเป้าหมายลดต้นทุนการผลิตสินค้าที่จะวางจำหน่ายในประเทศ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดรวมถึงการวางกลยุทธ์ราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายในอนาคต

ปัจจุบันโรงงานแห่งที่ 1 ของบริษัทผลิตสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำ มีกำลังการผลิตรวม 5.4 แสนชิ้น/ปี โรงงานแห่งที่ 2 ผลิตสินค้าเซรามิก กำลังการผลิตรวม 4.2 แสนชิ้น/ปี และล่าสุดก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ดังกล่าว โดยมีสัดส่วนส่งออกทุกโรงงานอยู่ที่ 90% และขายในประเทศ 10% ซึ่งในอนาคตบริษัทจะเพิ่มสัดส่วนยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายใน 5-10 ปีจากนี้

นายซูซูกิ กล่าวว่า บริษัทแม่ประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญกับตลาดเอเชียเป็นหลักโดยเฉพาะ 3 ประเทศในภูมิภาคดังกล่าวนี้ ได้แก่ ไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งในปี 2560 ที่ผ่านมาประเทศในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียที่เติบโตสูงสุดอันดับ 1 คือ เวียดนาม รองลงมา คือ ไทยและอินเดีย ส่วนในแง่ของกำลังการผลิตทั่วโลกอันดับ 1 อยู่ที่จีน รองลงมา คือ สหรัฐอเมริกา อันดับที่ 3 ไต้หวัน อันดับที่ 4 เวียดนาม และอันดับที่ 5 ไทย

พร้อมกันนี้ บริษัทได้เตรียมจัดรายการส่งเสริมการขาย (โปรโมชั่น) ลดสูงสุด 70% สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการและ แจกบัตรกำนัลเทสโก้ โลตัส มูลค่า 300-5,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าตั้งแต่ 3 หมื่น- 2.5 แสนบาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-30  ก.ย. 2561

ภาพประกอบข่าว