posttoday

3 ธุรกิจเครือสหพัฒน์ ปรับสู่โรงงานอัจฉริยะ

22 พฤษภาคม 2561

ฟันเฟืองการแข่งขันในโลกของอุตสาหกรรม 4.0 คือ การใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย

ฟันเฟืองการแข่งขันในโลกของอุตสาหกรรม 4.0 คือ การใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 3 บริษัทใหญ่ในเครือสหพัฒน์ เร่งทรานส์ฟอร์เมชั่น ลงทุนเทคโนโลยีกว่า 650 ล้านบาท สู่โรงงานอัจฉริยะ ปรับไลน์การผลิตโรโบติกส์ รับรองการแข่งขันผลิตเร็ว ลดต้นทุน ตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ทันใจ

อภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจ 3 บริษัทใหญ่ ได้แก่ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และบริษัท ไลอ้อน เดินหน้าทรานส์ฟอร์เมชั่นลงทุนเทคโนโลยีโรงงานก้าวสู่ยุค 4.0 หรือสู่สร้างโรงงานอัจฉริยะ

ทั้งนี้ บริษัทลงทุนสายการผลิตใหม่ ยกระดับโดยนำโรโบติกส์หรือหุ่นยนต์มาใช้ภายในโรงงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้เร็วยิ่งขึ้น โดยบริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ วางแผนการลงทุน 150 ล้านบาท ปรับโฉมโรงงานด้วยนำโรโบ ติกส์มาใช้ 2 โรงงาน ที่โรงงานลาดกระบังและโรงงานบางชัน ซึ่งมีสายการผลิตทั้งหมด 30 ไลน์ เพื่อให้กระบวนการผลิตเป็นออโตเมชั่นทั้งหมด โดยจะทยอยปรับทั้งหมด

สำหรับในปีนี้บริษัทลงทุนราว 10 ล้านบาท เริ่มทดลองการผลิต 2 ไลน์ ที่โรงงานบางชัน เนื่องจากเทคโนโลยีเริ่มมีราคาถูกลง บริษัทจึงเร่งการลงทุน และขณะนี้พบว่าอุตสาหกรรมกลุ่มธุรกิจอาหารในไทยก็เริ่มทรานส์ฟอร์มในลักษณะเดียวกับบริษัทแล้ว ขณะเดียวกันเพื่อก้าวสู่โรงงานอัจฉริยะ บริษัทยังลงทุนระบบการบริหารจัดในโรงงาน มอนิเตอร์ การควบคุม และระบบโลจิสติกส์ ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ทั้งหมด

ขณะเดียวกัน ในปีนี้บริษัทจะเปิดตัวขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ 10 รายการ เน้นกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพควบคู่กับความอร่อย ขณะที่ภาพรวมตลาดขนมปังมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท เติบโต 3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาตลาดติดลบ 2% ซึ่งในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ตลาดโต 2-3% สำหรับรายได้ทั้งปีตั้งเป้าเติบโต 8% หรือกว่า 7,800 ล้านบาท
 
ในส่วนของบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ หรือโรงงานผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่ากำลังอยู่ระหว่างการลงทุนภายในปีนี้

บุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทได้ลงทุนมากกว่า 500 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีกระบวนการผลิตเป็นโรโบติกส์ทั้งหมดและการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ เพื่อลดต้นทุนการใช้พลังงานจากไฟฟ้า ขณะเดียวกันยังได้ลงทุนเทคโนโลยีในระบบโลจิสติกส์ เพื่อทำให้การขนส่งมีประสิทธิภาพตอบสนองในทุกช่องทาง

ขณะที่เป้าหมายเครือสหพัฒน์ กำลังเร่งปรับตัวรองรับกับการแข่งขันธุรกิจในยุค 4.0 ซึ่งผู้ประกอบการต้องแข่งขันด้านทางต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นระบบโลจิสติกส์หรือพลังงาน รวมถึงกระบวนการผลิตต้องรวดเร็ว เพื่อรองรับกับการเติบโตของตลาด ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงเร็ว และจากการลงทุนดังกล่าวจะผลักดันให้รายได้ของบริษัทเติบโตมากกว่า 5% หรือ 1.7-1.8 หมื่นล้านบาท

นี่คือการปรับตัวก้าวสู่ยุคแห่งการปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมโลก ใครลงทุนช้าก็อาจเพลี่ยงพล้ำให้กับคู่แข่งได้