posttoday

อิตัลไทยวิศวกรรม หวัง 5 ปี 1 หมื่นล้าน

17 พฤษภาคม 2561

เปิดแผนธุรกิจอิตัลไทยวิศวกรรม หวัง 5 ปี 1 หมื่นล้าน

เรื่อง..อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

อุตสาหกรรมด้านวิศวกรรมก่อสร้างคาดจะเริ่มฟื้นตัวปี 2561 เป็นต้นไป สวนทางกับปีก่อนที่ทุกบริษัทไม่มีการเติบโต โดยปัจจัยหนุนที่จะทำให้ธุรกิจโตได้ เนื่องมาจากเศรษฐกิจโดยรวมเติบโตขึ้นตามผลนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ อีกทั้งการผลักดันโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ออกมาเป็นกฎหมายชัดเจนขึ้น สร้างแรงดึงดูดให้บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุน

สกล เหล่าสุวรรณ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมขยาย ธุรกิจใหม่ โดยจะเน้นกลุ่มไฮเทคโนโลยีต่างๆ แวร์เฮาส์ และสมาร์ทกริด เพิ่มขึ้นต่อยอด 4 ธุรกิจในปัจจุบัน เพื่อรองรับความต้องการในอุตสาหกรรมใหม่ ตามที่รัฐบาลสนับสนุนและเทรนด์ดิจิทัลที่เกิดขึ้น

รวมทั้งการขยายตลาดไปต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มซีแอลเอ็มวี เพิ่มขึ้น จากปีที่ผ่านมาได้มีการตั้งบริษัทที่ประเทศเมียนมา โดยได้มีโครงการที่เซ็นสัญญาไปแล้วกับบริษัท Sahadharawat ในประเทศเมียนมา ขณะนี้อยู่ระหว่าง การดำเนินงาน คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ อีกทั้งยังมีหลายโครงการที่ บริษัทเตรียมเข้าประมูล โดยเฉพาะ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา คาดว่า ปีนี้จะได้งานมูลค่าราว 500 ล้านบาท ขึ้นไป

ขณะเดียวกัน ยังได้เริ่มศึกษา ตลาดของ สปป.ลาว และกัมพูชา เพื่อหาโอกาสในการขยายธุรกิจโดยรูปแบบเป็นการร่วมกับพาร์ตเนอร์ท้องถิ่น ซึ่ง ในปีนี้คาดว่าจะเริ่มประมูลงานโรงงาน และงานระบบอาคารที่กัมพูชาได้ในปีนี้โดยมูลค่างานไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป

สำหรับแผน 5 ปี บริษัทจะแตกไลน์ธุรกิจใหม่เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร เนื่องจากปัจจุบันการแข่งขันสูง โดยเฉพาะจีนที่มีพร้อมทั้งเรื่องของเทคโนโลยี บุคลากร และการแข่งขันด้านราคา ทำให้ต้องมีการปรับกลยุทธ์ตลาดโดยการร่วมมือกับพันธมิตรต่างประเทศ อย่างเช่นที่ผ่านมาได้ร่วมกับพันธมิตรประเทศจีน (Beijing Sifang Automation) ซึ่งจะทำให้เราสามารถแข่งขันในธุรกิจสมาร์ทกริดได้อย่างเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมาย 5 ปี (2561-2565) จะมีรายได้ที่ 1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้วางเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ที่ 20% ของรายได้รวม

อย่างไรก็ดี มองว่าภาพรวมธุรกิจปีนี้จะดีขึ้นจากปีที่แล้ว คาดว่าการขยายธุรกิจใหม่ๆ จะทำให้พอร์ตรายได้ขยาย โดยปีนี้ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 6,000 ล้านบาท และมีกำไรเพิ่มขึ้น 30% จากปีที่แล้ว ขณะนี้บริษัทมียอดรับรู้รายได้ในมือแล้ว กว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้จะรับรู้รายได้ที่ราว 5,500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะไปรับรู้ในปีหน้า ดังนั้นบริษัทต้องเร่งหางานใหม่อีก 500 ล้านบาทก็จะเป็นไปตามเป้าหมาย

ในส่วนของปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 4,000 ล้านบาท ไม่เป็นไปตามเป้าเนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดี ขณะที่นโยบายรัฐไม่สนับสนุนธุรกิจ โซลาร์เท่าที่ควร อีกทั้งการลงทุนภาครัฐเพิ่งเริ่มขยับ สำหรับสัดส่วนรายได้ปีนี้มาจากกลุ่มโรงงานอุตสากรรม 30% ระบบอาคาร 30% ธุรกิจพลังงาน 15% และที่เหลืออื่นๆ

"บริษัทได้มีการลงทุน 200-300 ล้านบาท ในการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล พร้อมเตรียมความพร้อมภายในองค์กรจะเข้าตลาดหลักทรัพย์คาดในปีนี้"