posttoday

"โคโดโม" หันรุกครอบครัวลดเสี่ยงเด็กไทยเกิดน้อย

14 พฤษภาคม 2561

เมื่ออัตราการเกิดของเด็กไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ธุรกิจเกี่ยวกับเด็กแรกเกิดจนถึงเด็กโตเริ่มออกมาปรับแผนการตลาด ด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เข้ามา

เมื่ออัตราการเกิดของเด็กไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ธุรกิจเกี่ยวกับเด็กแรกเกิดจนถึงเด็กโตเริ่มออกมาปรับแผนการตลาด ด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เข้ามา

***********************

โดย...จะเรียม สำรวจ

จากอัตราการเกิดของเด็กไทยที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 พบว่าการเกิดลดลงเหลือ 6.6 แสนคน เมื่อเทียบกับปี 2555 ที่มีเด็กเกิดใหม่อยู่ที่ประมาณ 7.8 แสนคน และในปี 2583 คาดการณ์กันว่าจะมีเด็กเกิดใหม่เหลือเพียง 5 แสนคน ทำให้หลายธุรกิจที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเด็กแรกเกิดจนถึงเด็กโตเริ่มออกมาปรับแผนการตลาด ด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาทำตลาด เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

หนึ่งในบริษัทที่ออกมาประกาศแผนชัดเจน คือ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) ว่า ต้องการจะขยายฐานลูกค้าจากเด็กต่ำกว่า 12 ปี เป็นกลุ่มเป้าหมายทุกคน ในครอบครัว เพื่อลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจภายหลังเด็กไทยมีอัตราการเกิดลดลง

สายพิณ ประจงพงศ์พันธุ์ รักษาการรองผู้จัดการบริหารธุรกิจสหพัฒน์ ผลิตภัณฑ์สินค้าส่วนบุคคล บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้บริษัทปรับแผนการทำตลาดผลิตภัณฑ์โคโดโมใหม่ ด้วยการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น โดย 1 ผลิตภัณฑ์ทุกคนในครอบครัวสามารถใช้ได้ จากเดิมผลิตภัณฑ์โคโดโมจะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเป็นหลัก เพื่อเพิ่มยอดขายและลดความเสี่ยงจากการที่สินค้าเด็กอิ่มตัว เพราะอัตราการเกิดลดลง

นอกจากนี้ ยังถือเป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ไม่ฟื้น ส่งผลให้ความถี่ในการซื้อสินค้าเด็กน้อยลง และเพื่อให้ยอดขายเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทได้ใช้งบการตลาดประมาณ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ใช้ประมาณ 400-500 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

กิจกรรมล่าสุดที่บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) ได้จัดขึ้น คือ การจัดแคมเปญเอาใจคุณแม่และเด็กๆ ด้วยการมอบโชคตะลุยโลกล้านปีเยือนถิ่นไดโนเสาร์กับโคโดโม เพื่อให้น้องๆ ได้ไปเปิดโลกกว้างผจญภัยและเรียนรู้อย่างสมวัย ตามเป้าหมายของแบรนด์ และได้พัฒนาสินค้ามาจำหน่ายในตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้จะเปิดตัวใหม่อีก 3 รายการ ซึ่งเป็นทั้งสินค้าสำหรับส่วนบุคคลและผลิตภัณฑ์ในช่องปาก

สายพิณ กล่าวอีกว่า แผนดำเนินงานนี้บริษัทจะเน้นไปที่สร้างการรับรู้ เพื่อให้ผู้บริโภคในช่วงอายุต่างๆ ได้รู้ว่าสินค้าของโคโดโมสามารถใช้ร่วมกับ
เด็กได้ มีความปลอดภัย ไม่แพ้ ไม่ระคายเคืองผิว และเพื่อให้สินค้ามีความหลากหลายมากขึ้นในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 3 รายการ ในกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและผลิตภัณฑ์ในช่องปาก

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์โคโดโม มีสินค้าแบ่งเป็น 1.ของใช้ส่วนบุคคล ได้แก่ แป้งเด็ก โลชั่น สบู่เหลว และยาสระผม มีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 40% โดยในปีที่แล้วเติบโตมากถึง 50% จากการออกสินค้าใหม่ 2.ของใช้ภายในบ้าน ได้แก่ น้ำยาซักผ้า และปรับผ้านุ่ม ยอดขาย 30% และผลิตภัณฑ์ในช่องปาก มียอดขาย 30% โดยกลุ่มสินค้าที่มียอดขายเติบโตมาก คือ กลุ่มยาสีฟัน จากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าวทำให้ปัจจุบันโคโดโมเป็นผู้นำด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 60%

หลังจากออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง และเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) คาดหวังว่า สิ้นปี 2561 นี้จะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตจากปีก่อนมากถึง 20%