posttoday

เมเจอร์เจาะเซ็กเมนต์ รุกโรงหนังเด็กปูฐานลูกค้า

11 พฤษภาคม 2561

หลังจากออกมาใช้กลยุทธ์สร้างฐานลูกค้าประจำผ่านบัตรสมาชิก เอ็ม เจน (M Gen) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

โดย...จะเรียม สำรวจ

หลังจากออกมาใช้กลยุทธ์สร้างฐานลูกค้าประจำผ่านบัตรสมาชิก เอ็ม เจน (M Gen) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบันโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์มีฐานสมาชิกบัตรเอ็ม เจนอยู่ที่ประมาณ 3-4 ล้านราย ในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นฐานลูกค้าบัตรเอ็ม เจน สติวเดนท์ (นักเรียน นักศึกษา) 50% บัตรเอ็ม เจน อะเดาท์ (ผู้ใหญ่) 30% ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 20% เป็นบัตรเอ็ม เจน ฟรีดอม (วัยเกษียณ) บัตรเอ็ม เจน เฟิร์สคลาส (กลุ่มคนที่ดูหนังตั้งแต่ 39 เรื่องขึ้นไปต่อปี) บัตรเอ็ม เจน ไอแมกซ์ (ลูกค้าที่ชอบดูโรงไอแมกซ์) และบัตรเอ็ม เจน คิดส์ (เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี)

จากฐานลูกค้าในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และผู้ใหญ่ที่มีความแข็งแกร่ง ทำให้โรงภาพยนตร์เมเจอร์เล็งเห็น โอกาสในการขยายฐานลูกค้าเข้าไปยังกลุ่มเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี เพื่อ สร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งต่อยอด ธุรกิจไปถึงวัยที่เป็นนักศึกษา ผู้ใหญ่ และวัยเกษียณ

นิธิ พัฒนภักดี รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทจะให้ความ สำคัญกับการทำตลาดแบบเซ็กเมน เทชั่นมากขึ้น ด้วยการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทำกิจกรรมการตลาดร่วมกัน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงเหมือนกัน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษนับจากนี้ คือ กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เนื่องจากกลุ่มลูกค้าดังกล่าวถือเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญสำหรับการต่อยอดธุรกิจในอนาคต

อย่างไรก็ดี เพื่อเดินตามแผนการตลาดดังกล่าว ล่าสุด เมเจอร์ ได้จับมือกับบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) เปิดโรงภาพยนตร์แห่งแรกในประเทศไทยที่โรงภาพยนตร์เมกา ซีนีเพล็กซ์ บางนา จำนวน 1 โรง ด้วยการนำแบรนด์ "โคโดโม" มาเป็นเนมมิ่งสปอนเซอร์ภายใต้ชื่อ "KODOMO Kids Cinema" โดยในส่วนของโรงภาพยนตร์ดังกล่าวจะเน้นบริการฉายภาพยนตร์ที่เหมาะกับกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ที่มีลูกอายุระหว่าง 5-12 ปีเป็นหลัก

นอกจากจะมีการฉายภาพยนตร์สำหรับครอบครัวโดยเฉพาะแล้ว ภายในโรงภาพยนตร์ KODOMO Kids Cinema ยังมีบริการเครื่องเล่น Playland พร้อมบ่อลูกบอลหลากสีสันและสไลเดอร์ ไว้ให้เด็กๆ ได้เล่นก่อนชมภาพยนตร์ รวมถึงเก้าอี้สีสันแนวลูกกวาดจำนวน 84 ที่นั่ง เพื่อสร้างบรรยากาศความสดใสให้กับโรงภาพยนตร์ดังกล่าวอีกด้วย

สำหรับบัตรชมภาพยนตร์นั้นได้กำหนดราคาเริ่มต้นไว้ที่ 200 บาท สำหรับเก้าอี้ปกติ, เก้าอี้ฮันนีมูน 220 บาท, Single Sofa Bed 250 บาท และ Double Sofa Bed คู่ละ 500 บาท ซึ่งหลังจากออกมาเปิดตัวโรงภาพยนตร์ดังกล่าว เมเจอร์ฯ มั่นใจว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าเด็กได้เพิ่มขึ้น 30% จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 2.5 แสนคน

นิธิ กล่าวต่อว่า สาขาต่อไปที่คาดว่าจะเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์เด็ก เพิ่มเติม คือ รังสิต และเวสต์เกต ส่วนสาขาพารากอน ขณะนี้อยู่ระหว่างการ ศึกษาความเป็นไปได้ เนื่องจากโรงภาพยนตร์ค่อนข้างเต็ม ทำให้ปรับแผน การตลาดยาก ซึ่งนอกจากจะให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าเด็กแล้ว ในอนาคตบริษัทก็มีแผนจะเน้นทำการตลาดกลุ่ม ผู้หญิงโดยเฉพาะ เช่น การให้สิทธิพิเศษใน ด้านต่างๆ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ ที่มากกว่าผู้ชาย