เอ็มบีเคลุยร้านอาหาร กางแผน5ปีเปิด50สาขาควบซื้อกิจการ หวังโกยรายได้2,000ล้าน

เอ็มบีเคลั่นแผนธุรกิจร้านอาหาร 5 ปี เปิดรวด 50 สาขา หลังเล็งซื้อกิจการร้านอาหารแบรนด์ใหม่เสริมทัพ

นายสมเกียรติ มรรคยาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงตราข้าวมาบุญครองและธุรกิจ ร้านอาหารในเครือบริษัท เอ็มบีเค เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจใน 5 ปี นับจากนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจร้านอาหารในเครือให้ครบ 50 สาขา จาก ปัจจุบันมีร้านอาหารในเครือที่เปิดให้ บริการอยู่ 4 สาขา ประกอบด้วย ร้านสุกี้นัมเบอร์วัน 3 สาขา และร้านอาหารญี่ปุ่นฮินะ 1 สาขา

นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของธุรกิจศูนย์อาหารภายใต้ชื่อ เดอะ ฟิฟธ์ ฟู้ด อเวนิว ซึ่งเป็นศูนย์อาหารนานาชาติเปิดให้บริการอยู่บริเวณชั้น 5 และศูนย์อาหารเอ็มบีเค ฟู้ด ไอส์แลนด์ ซึ่งเป็นศูนย์อาหารในแนวสตรีทฟู้ดเปิดให้บริการอยู่บริเวณชั้น 6 บริษัทก็มีแผนที่จะนำธุรกิจดังกล่าวเข้าไปเปิดให้บริการภายในศูนย์การค้านอกเครือเอ็มบีเค โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับศูนย์การค้าใหม่หลายแห่งคาดว่า เร็วๆ นี้น่าจะได้ข้อสรุป

"ปัจจัยที่จะทำให้บริษัทมีธุรกิจร้านอาหารไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ 50 สาขาในอีก 5 ปีได้นั้น นอกจากบริษัทจะ ขยายธุรกิจร้านอาหารที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องแล้ว บริษัทยังมีแผนที่จะเข้าซื้อกิจการ ร้านอาหารที่มีศักยภาพเข้ามาเสริม ความแข็งแกร่ง เพื่อให้ธุรกิจร้านอาหารขยายตัวเร็วขึ้นอีกด้วย" นายสมเกียรติ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะขยายร้านอาหารสุกี้นัมเบอร์วันเพิ่มอีก 4 สาขา ทั้งในศูนย์การค้าและนอกศูนย์การค้า ซึ่งในส่วนของทำเลที่บริษัทจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ คอมมูนิตี้มอลล์ เพราะหลังจากบริษัทนำร้านสุกี้นัมเบอร์วันเข้าไปเปิดให้บริการในศูนย์การค้าเดอะไนน์ พระราม 9 พบว่าลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี

"พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะปรับปรุงรูปแบบการให้บริการและเมนูของร้านสุกี้นัมเบอร์วัน จากเดิมจะเน้นอาหารในรูปแบบสุกี้โบราณเปลี่ยนเป็นสุกี้สไตล์ฟิวชั่น เพื่อให้มีความหลากหลายและตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันก็จะนำร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์ ฮินะ เข้าไปเปิดให้บริการตามศูนย์อาหารต่างๆ มากขึ้น จากปัจจุบันเปิดให้บริการที่ศูนย์อาหารเอ็มบีเค ฟู้ด ไอส์แลนด์แห่งเดียว" นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ในส่วนของศูนย์อาหารเดอะ ฟิฟธ์ ฟู้ด อเวนิว ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะปรับรูปแบบของบริการใหม่เช่นกัน ด้วยการนำบริการในรูปแบบโพสต์เพด หรือใช้การ์ดซื้ออาหารมารับประทานก่อนแล้วจ่ายเงินทีหลัง เพราะหลังจากบริษัทปรับรูปแบบบริการเป็นแบบพรีเพดในช่วงปีที่ผ่านมา คือ ใช้เงินซื้อคูปองอาหารก่อนแล้วค่อยซื้ออาหารรับประทาน พบว่ากลุ่มลูกค้าชาวยุโรปหายไปเหลือเพียงกลุ่มลูกค้าจีนและเอเชียเข้ามาใช้บริการเท่านั้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้ายุโรปต้องการความเป็นส่วนตัว

ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่าวบริษัทจึงปรับรูปแบบบริการศูนย์อาหารเดอะ ฟิฟธ์ ฟู้ด อเวนิว กลับมาเป็นโพสต์เพดเหมือนเดิม เพื่อสร้างความแตกต่างจากศูนย์ อาหารเอ็มบีเค ฟู้ด ไอส์แลนด์ ทั้งนี้คาดว่าอีก 5 ปีจะมีรายได้จากธุรกิจร้านอาหาร 2,000  ล้านบาท จากปี 2560 มีรายได้เพียง 400 ล้านบาทเท่านั้น