posttoday

ซีอาร์จีเล็งผนึกเอสเอ็มอี ปั้น 'ฟู้ดเฮเวน' เสริมทัพ

06 เมษายน 2561

การแข่งขันที่รุนแรงในวงการธุรกิจ ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจต้องเสริมเขี้ยวเล็บในการทำธุรกิจกันเป็นระยะๆ

โดย...จะเรียม สำรวจ

การแข่งขันที่รุนแรงในวงการธุรกิจ ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจต้องเสริมเขี้ยวเล็บในการทำธุรกิจกันเป็นระยะๆ เพื่อให้สามารถต่อสู้กับคู่แข่งที่อยู่ในตลาดได้ และหนึ่งในกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการธุรกิจนิยมใช้ในยุคนี้ คือ การผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

เช่นเดียวกับ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป หรือซีอาร์จี ที่ล่าสุดออกมาประกาศยุทธศาสตร์ในการ ดำเนินธุรกิจนับจากนี้ว่าจะให้ความสำคัญกับการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ มากขึ้น เพราะกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้ธุรกิจขยายตัวได้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งพันธมิตรที่ซีอาร์จีให้ความสนใจ คือ กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารขนาดย่อมหรือขนาดกลาง (เอสเอ็มอี)

ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีร้านอาหารที่เป็นเอสเอ็มอีหลายแห่งที่มีศักยภาพ ทำอาหารที่มีคุณภาพ และมีชื่อเสียง แต่ร้านเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีปัญหาในด้านของเงินทุนที่จะนำมาขยายธุรกิจ บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือในด้านดังกล่าว ด้วยการเข้าไปร่วมทุนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถขยายร้านอาหารได้ตามที่ตั้งใจ

นอกจากจะมีความแข็งแกร่งใน ด้านของเงินทุนแล้ว สิ่งที่ซีอาร์จีจะนำเข้าไปช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี คือ การหาทำเลที่มีศักยภาพให้ร้านอาหารของเอสเอ็มอีได้เปิดให้บริการ รวมไปถึงการหาทีมงานที่มีศักยภาพและโนว์ฮาวต่างๆ เข้าไปให้ความช่วยเหลือ

ณัฐ กล่าวต่อว่า หลังจากจับมือร่วมกันบริษัทไม่เข้าไปดูแลกิจการทั้งหมด แต่จะร่วมกันบริหาร ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลง ซึ่งอาจจะออกมาในหลาย รูปแบบ เช่น สัดส่วนการเข้าไปถือหุ้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการเจรจา แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้แน่ๆ จากการจับมือร่วมกับบริษัท คือ ทำให้ร้านอาหารแบรนด์นั้นๆ มีความแข็งแกร่งและเติบโตดีขึ้นอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ซีอาร์จีอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจร้านอาหารอยู่ประมาณ 6-7 แบรนด์ ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ร้านอาหารที่เปิดให้บริการอยู่ในเครือศูนย์การค้าเซ็นทรัล เบื้องต้นคาดว่าเร็วๆ นี้น่าจะได้ข้อสรุป ส่วนจะสรุปได้กี่แบรนด์นั้น ซีอาร์จี คาดว่าน่าจะได้ปีละประมาณ 2-3 แบรนด์

นอกจากนี้ ซีอาร์จียังมีแผนจะพัฒนาบริการในรูปแบบใหม่ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เช่น การทำธุรกิจ ในรูปแบบฟู้ดเฮเวน หรือการรวบรวมร้านอาหารในเครือของซีอาร์จี มาเปิดให้บริการในสถานที่เดียวกัน เพื่อสร้างแบรนด์ร้านอาหารให้เป็นที่รู้จัก พร้อมกับขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าจะสามารถสั่งอาหารแบรนด์ใดของซีอาร์จีก็ได้มารับประทานอยู่ภายในพื้นที่เดียวกัน โดยขณะนี้ ได้เริ่มทดลองแล้วที่ห้างเทสโก้ โลตัส สาขาบางใหญ่ บนพื้นที่ 300 ตาราง เมตร ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวจะมีร้านอาหารโยชิโนยะ คัตสึยะ และเปปเปอร์ลันช์ เปิดให้บริการรวมอยู่ด้วยกัน

ณัฐ กล่าวอีกว่า ในส่วนของธุรกิจร้านอาหารใหม่ๆ บริษัทก็ให้ความสนใจเช่นกัน โดยเฉพาะธุรกิจร้านกาแฟและเบเกอรี่ เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวมีมูลค่าตลาดมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับธุรกิจร้านอาหารแบบหม้อไฟ ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 1.9 หมื่นล้านบาท และร้านอาหารประเภทส้มตำ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านบาท

จากแนวทางธุรกิจดังกล่าวทำให้ ซีอาร์จี มั่นใจว่า อีก 5 ปีนับจากนี้ (2561-2565) จะมีรายได้ทะลุ 2.2 หมื่นล้านบาท แน่นอน