posttoday

"สมโภชน์ อาหุนัย" กล้าแข่งเทคโนโลยีโลก

01 เมษายน 2561

"เราจะเป็นเอกชนเพียวๆ ของไทยรายแรกที่ออกไปแข่งขันเทคโนโลยีระดับโลก"

"เราจะเป็นเอกชนเพียวๆ ของไทยรายแรกที่ออกไปแข่งขันเทคโนโลยีระดับโลก"

********************** 

โดย...วารุณี อินวันนา

นักธุรกิจชั้นนำทั่วโลกกำลังพุ่งเป้าเข้าสู่การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทดแทนที่ได้จากธรรมชาติ ต้นทุนต่ำ สะอาด เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ สร้างสุขภาพที่ดีให้กับมนุษยโลก

รวมถึง สมโภชน์ อาหุนัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ที่เริ่มต้นจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซล และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน กำลังต่อยอดธุรกิจเดิมเข้ากับวงล้อของเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ทั่วโลกกำลังวิ่งแข่งกันอย่างรุนแรง ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ต้นแบบที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าชื่อ ไมน์ (MINE) เต็มรูปแบบถึง 3 รุ่น เป็นรายแรกของประเทศไทย

สมโภชน์ กล้ายืนยันว่า รถยนต์ไฟฟ้า ไมน์ เป็น รถสัญชาติไทย 100% รายแรก ที่คนคิด คนออกแบบ คนทำ เทคโนโลยี เป็นคนไทย จะสร้างงานและมูลค่าเพิ่มให้กับซัพพลายเออร์ในประเทศไทย ช่วยลดผลกระทบการย้ายฐานการผลิตของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ออกจากไทยได้

ขณะที่ราคามีแต้มต่อที่สามารถแข่งขันกับรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่นๆ ที่อยู่มานาน เพราะมีความได้เปรียบจากการที่ลงทุนพัฒนาและสร้างเอง ต้นทุนการผลิตจึงต่ำ และในปี 2562 จะเริ่มทำการผลิตเชิงพาณิชย์ ส่วนปีนี้เตรียมวางระบบการให้บริการหลังการขายให้เรียบร้อย โดยจะมีการนำเทคโนโลยีโตบ้า ซึ่งได้รับรางวัลนวัตกรรมระดับโลกใส่เข้าไปในแบตเตอรี่ลิเทียม ที่บริษัทกำลังผลิตเพื่อป้องกันความร้อนของมอเตอร์

“ก่อนทำผมเดินทางไปคุยกับผู้ผลิตทั่วโลก เพื่อให้ช่วยสร้างรถต้นแบบ บางรายคิด 700 ล้านบาท บางราย 1,000 ล้านบาท ทำให้คิดว่าทำเองดีกว่า ทำ 10 รอบ ราคายังไม่ถึงที่เขาเรียกเลย” สมโภชน์ กล่าว

สมโภชน์ กล่าวว่า การนำธุรกิจเข้าสู่การผลิตที่ใช้ นวัตกรรมใหม่ๆ เพราะมีมุมมองไม่เหมือนคนอื่น โดยมองเห็นโอกาสจากธุรกิจที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลง ในสถานการณ์อย่างนั้นจะทำให้สามารถแซงคู่แข่งรายอื่นๆ ไปได้ และกลายเป็นผู้ชนะในที่สุด ไม่ต้องไปต่อคิวเหมือนกับการทำธุรกิจปกติ

ก่อนจะเข้าไปในธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง ต้องใช้สติ และทำการวิเคราะห์ เสร็จแล้วก็เปรียบเทียบความเสี่ยงว่าคุ้มไหม ซึ่งต้องดูทุนของตัวเองก่อน

“ผมก็คิดว่าผมมีเงินอยู่เท่าไร แล้วเสี่ยงเท่าไร และด้วยประสบการณ์เรา ทำไปแล้วมีโอกาสสำเร็จเท่าไร เราไหวไหม ถ้าคิดว่าคุ้มก็ทำเลย อย่ารอ” สมโภชน์ กล่าว

สมโภชน์ กล่าวว่า อย่างการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม เพื่อใช้เก็บกักพลังงานจากแสงอาทิตย์ และลม ขนาดกำลังการผลิต 50 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่าโรงงานแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาขณะนี้ถึง 1.4 เท่า จะเริ่มเฟสแรก 1 GWh ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าเท่าตัวประมาณ 2,000 ล้านบาท หากล้มเหลว บริษัท อีเอ ก็ไม่สะเทือน แต่ด้วยประสบการณ์ของบริษัท อมิตา ที่ซื้อมาจากไต้หวันที่มีเทคโนโลยีของตัวเอง มั่นใจว่าจะผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมออกมาได้ถูกกว่า และแข่งขันได้ทั้งราคาและเทคโนโลยี คาดว่าโรงงานนี้จะเสร็จกลางปี 2562

นอกจากนี้ สมโภชน์กำลังทำโครงการใหญ่ ชื่อ ฉะเชิงเทราบลูเทคซิตี้ บนพื้นที่ประมาณ 3,000 ไร่ ที่ใช้เงินลงทุนส่วนตัวซื้อที่ดินไปแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท เพื่อรวมธุรกิจที่ผลิตด้วยนวัตกรรมใหม่มาไว้ในที่เดียวกัน ทั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำมันปาล์ม โชว์รูม ห้องปฏิบัติการ วิจัยและพัฒนา ทดลอง ทดสอบ ให้สามารถนำไปใช้ได้ผลในเชิงพาณิชย์ ออกแบบโดยใช้แนวคิดพลังงานแห่งอนาคต เพื่อให้เป็นบลูอินดัสเตรียลเอสเตทแห่งแรกของประเทศไทย

“โปรเจกต์ทั้งหมดของผมจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับคนไทย ประเทศไทย ถ้าประสบความสำเร็จเราจะเป็นเอกชนเพียวๆ ของไทยรายแรกที่ออกไปแข่งขันเทคโนโลยีระดับโลก”สมโภชน์ สรุป

อยากให้สังคมไทยเจริญ

สมโภชน์ถูกจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ เป็นเศรษฐีอันดับ 8 ของประเทศไทย ให้คำนิยามตัวเองว่า เป็นคนรักความเจริญ อยากให้สังคมไทยเจริญ และไม่กลัวสิ่งที่ไม่รู้ เมื่อไม่รู้จะต้องแสวงหา รู้แล้วให้ลงมือทำ ลักษณะแบบนี้เป็นสิ่งที่สังคมไทยควรส่งเสริมให้เกิดขึ้น เพราะถ้าปิดกั้นจะทำให้คนมองไม่เห็นโอกาส

“ก่อนจะทำอะไรจะมีการศึกษาก่อน ผมเชื่อในงานวิจัยและพัฒนา เราใช้เงินหลัก 100 ล้านบาทในการทำวิจัย แต่สามารถนำมาสร้างธุรกิจในเชิงพาณิชย์ได้เติบโตมีมูลค่าแสนล้านบาท สร้างโรงงาน และ ผลิตสินค้าได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ทำให้สามารถส่งสินค้าออกไปแข่งขันกับตลาดโลกได้” สมโภชน์ กล่าว

ยกตัวอย่าง บริษัทได้ทำการวิจัยพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าน้ำมันปาล์ม มีการผลิตไบโอดีเซล และกรีนเซอร์ลีนบริษัท วันนี้สามารถผลิตดีเซลสังเคราะห์ที่ไม่มีข้อจำกัดในการเติมเครื่องยนต์ สารเปลี่ยนสถานะ (PCM) โดยไทยจะเป็นประเทศแรกของโลกที่ผลิตสาร PCM สารที่กักเก็บพลังงานไฟฟ้า ได้จากพืช ที่นำไปใช้ในสินค้าต่างๆ ได้หลากหลาย ทำให้รายได้กลับไปหาคนไทย หาเกษตรกรไทย

ขณะที่การผลิตแบตเตอรี่ลิเทียม จะทำให้สามารถกักเก็บพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์และลม สามารถเคลื่อนย้ายได้ จะมาเติมเต็มการใช้ไฟฟ้าของคนไทยในอนาคตได้ โดยในอีก 5 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะต้องการใช้ไฟถึง 5 แสนล้านบาท มากกว่าปัจจุบันถึง 10 เท่า ซึ่งแบตเตอรี่ลิเทียมจะเป็นจิ๊กซอว์ ทำหน้าที่เป็นระบบสำรองไฟฟ้าในเวลาที่ไม่ใช้ และจ่ายไฟฟ้าออกมาเมื่อต้องการ ทำให้ระบบไฟฟ้าของไทยเกิดความเสถียร

สมโภชน์วาดหวังอย่างสูงว่า โครงการฉะเชิงเทราบลูเทคซิตี้ ที่ออกแบบมาให้เข้าเงื่อนไขของการดำเนินการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อขอสิทธิพิเศษทางภาษีจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้ไทย และเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลางจะได้รับการสนับสนุน

วันนี้ สมโภชน์ อดีตนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และโบรกเกอร์มือดี นักธุรกิจรุ่นใหญ่วัย 50 ปี น่าจับตามองยิ่ง ด้วยความรู้ด้านวิศวกรในสมัยเรียนปริญญาตรี ประกอบกับความรู้ระดับปริญญาโทด้านการเงิน ความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ธุรกิจ โครงการต่างๆ ที่กำลังเริ่มไม่น่าจะกลายเป็นศูนย์