posttoday

เซ็นทรัลชูออนดีมานด์ รับนักช็อปยุคดิจิทัล ลั่นปีนี้ขึ้นที่1ทุกโซเชียล ดันรายได้โต2เท่า

28 มีนาคม 2561

ห้างเซ็นทรัล ใช้ออนดีมานด์เสริมแกร่ง รับผู้บริโภคยุคดิจิทัล ลั่นขึ้นเบอร์ 1 ทุกโซเชียล ตั้งเป้ารายได้โต 2 เท่า ในปี 2562

ห้างเซ็นทรัล ใช้ออนดีมานด์เสริมแกร่ง รับผู้บริโภคยุคดิจิทัล ลั่นขึ้นเบอร์ 1 ทุกโซเชียล ตั้งเป้ารายได้โต 2 เท่า ในปี 2562

น.ส.ปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล เปิดเผยว่า เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค บริษัทพร้อมให้บริการผ่านช่องทางโซเชียลแพลตฟอร์มอย่างเต็มตัว โดยที่ผ่านมาได้ทดลองเปิดให้บริการเซ็นทรัลออนดีมานด์ ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อระหว่างออฟไลน์ (23 ศูนย์การค้า) กับออนไลน์ (central.co.th) ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2560-ก.พ. 2561 มียอดขายกว่า 10 ล้านบาท มีผู้ติดตามในโซเชียลแพลตฟอร์ม 6.5 หมื่นคน ซึ่งสิ้นปีนี้ ตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านบาท และในปี 2562 จะโตเป็น 1-2 เท่า หรือมียอดขาย 200-300 ล้านบาท

สำหรับปัจจุบันบริษัทครองอันดับ 1 ทุกโซเชียลแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไลน์ และยูทูบ เหลือเพียง อินสตาแกรมที่ยังอยู่อันดับ 3 คาดว่าสิ้นปี นี้จะขึ้นเป็นอันดับ 1 และจะมีผู้ติดตามเพิ่มเป็น 2.5 แสนแอ็กเคานต์

"การเชื่อมต่อออมนิแชนแนลอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ตอบสนองลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ามิลเลนเนียลได้อย่างครบวงจร และมีการเพิ่มขึ้นของลูกค้ากลุ่มนี้จากปี 2559 สัดส่วน 12% ของลูกค้าทั้งหมด เป็นสัดส่วน 20% ในปี ที่ผ่านมา และปีนี้คาดสัดส่วนจะเพิ่มเป็น 30%" น.ส.ปิยวรรณ กล่าว

ทั้งนี้ ด้วยยุทธศาสตร์ของห้างฯ ประกอบกับการเจริญเติบโตของธุรกิจ ท่องเที่ยวในเมืองไทย การเปิดสาขาใหม่ของห้างฯ ที่ภูเก็ตและเปิดห้างเซนที่ป่าตอง จะทำให้ยอดขายของบริษัทเติบโตได้มากกว่าจีดีพีในปีนี้ สำหรับปี 2560 ที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายประมาณ 4 หมื่นล้านบาท เติบโต 4% จากปีก่อน

นอกจากนั้น หลังจากทรานส์ฟอร์มธุรกิจ บริษัทได้ให้บริการลูกค้าช็อปปิ้งได้ครบทุกช่องทาง ทั้งออฟไลน์ ออนไลน์โดยมีสินค้าราว 3 แสนเอสเคยู และเซ็นทรัลออนดีมานด์ที่ลูกค้าเลือกช็อปสินค้าได้ทั้งห้าง ได้ตลอดเวลา ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ทุกช่องทางทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่ไม่มีห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเปิดบริการ

น.ส.ปิยวรรณ กล่าวว่า ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเป็นธุรกิจนำร่องขายออนดีมานด์ของกลุ่มเซ็นทรัล ก่อนจะขยายไปในทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ ซึ่งจะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลในปี 2561-2565 ด้วยการเข้าสู่ การเป็นนิวเซ็นทรัล นิวอีโคโนมี เพื่อก้าวสู่ การเป็นผู้นำด้านดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมตั้งเป้า รายได้จากออนไลน์ทั้งหมดที่ 5% ของรายได้ รวมของบริษัท

ขณะที่เซ็นทรัลออนดีมานด์แตกต่างจากอี-คอมเมิร์ซตรงที่ลูกค้าสามารถช็อปปิ้งที่ห้างและมีพนักงานให้บริการโดยที่ลูกค้าไม่ต้องมาเองและยังได้โปรโมชั่นเดียวกับที่มาซื้อที่ห้างด้วยการทำงาน 3 ขั้นตอน คือ Chat-Shop-Ship เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นแล้วแอดเฟรนด์ด้วยการสแกน QR Code ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ของห้างหรือเสิร์ช @CentralOnDemand หรือ @ CentralOnDemandEN จากนั้นแชต กับพนักงานถึงสิ่งที่ต้องการ และสามารถเลือกรับสินค้าถึงบ้านผ่านบริการเดลิเวอรี่ หรือสินค้าด้วยตนเองที่ Click & Collect และที่ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา

ด้านลูกค้าที่ใช้บริการเซ็นทรัลออนดีมานด์ปัจจุบันอยู่ในกรุงเทพฯ 53% และต่างหวัด 47% เป็นผู้หญิง 83.9% และผู้ชาย 16.1% และ 65% มีอายุระหว่าง 30-44 ปี สำหรับสินค้า 3 อันดับแรกที่มียอดขายสูงสุด 1.Ready To Wear 2.Home และ 3.Accessories สำหรับปีนี้บริษัท ตั้งงบการตลาดไว้ที่ 10% ของยอดขายหรือราว 10 ล้านบาท