posttoday

เอเยนซีคาดโฆษณาฟื้น กระแส"บีเอ็นเค48-ละครบุพเพสันนิวาส"หนุน

12 มีนาคม 2561

เอเยนซีเผยกระแสเกิร์ลกรุ๊ปบีเอ็นเค 48 และละครบุพเพสันนิวาสกระตุ้นอุตสาหกรรมโฆษณาฟื้น ครึ่งปีแรกภาพรวมอุตสาหกรรมโตไม่ต่ำกว่า 6-8%

เอเยนซีเผยกระแสเกิร์ลกรุ๊ปบีเอ็นเค 48 และละครบุพเพสันนิวาสกระตุ้นอุตสาหกรรมโฆษณาฟื้น ครึ่งปีแรกภาพรวมอุตสาหกรรมโตไม่ต่ำกว่า 6-8%

นายภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ หรือเอ็มไอ ผู้ให้บริการซื้อ-ขาย สื่อโฆษณาและวางกลยุทธ์สื่อสารทางการตลาด เปิดเผยว่า จากกระแสความนิยมในเกิร์ล กรุ๊ปวงบีเอ็นเค 48 และละครไทยเรื่องบุพเพ สันนิวาส ทำให้สินค้าหลายๆ แบรนด์ออกมาใช้เงินโฆษณากันมากขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายกันตั้งแต่ต้นปีกันอย่างคึกคัก

ทั้งนี้ จะส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาครึ่งแรกของปี 2561 นี้ จะกลับมาฟื้นตัวมีอัตราการเติบโตได้ประมาณ 6-8% หลังจากปี 2560 ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว ส่งผลให้ภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาลดลงเหลือประมาณ 8-9 หมื่นล้านบาทเท่านั้น หรือติดลบ 14% สูงสุดรอบ 10 ปี

“ความคึกคักดังกล่าวเห็นได้จากการที่ค่ายโอเปอเรเตอร์เครือข่ายโทรศัพท์อย่าง ทรูมูฟเอชที่รีบคว้าตัวสาวๆ จากวงบีเอ็นเค 48 มาเป็นพรีเซนเตอร์เป็นรายแรก ตามด้วยกล้องฟูจิฟิล์ม และร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ ไม่เว้นแม้แต่ทีมฟุตบอลช้างศึกของไทยที่ดึงน้องๆ มาร่วมขายเซตของที่ระลึกกองเชียร์ทีมชาติไทย” นายภวัต กล่าว

นอกจากนี้ ความคึกคักดังกล่าวยังทำให้ภาพรวมการทำการตลาดของสินค้าหลายประเภท เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติรวมไปถึงออกมาแข่งขันการใช้สื่อโฆษณา

สำหรับกลุ่มทีวีโฮมช็อปปิ้งก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่ออกมาทำการตลาดกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะการใช้เงินโฆษณาในรูปแบบไดเรกต์มาร์เก็ตติ้ง ส่งผลให้ปัจจุบันขยับอันดับการใช้เงินขึ้นมาจนติดอันดับ 1 ใน 5 ของกลุ่มสินค้าที่ใช้เงินสูงสุดจากก่อนหน้านี้ไม่เคยติดอันดับใดๆ มาก่อน เนื่องจากปัจจุบันมีช่องทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้นหลายช่อง จึงทำให้สินค้ามีทางเลือกในการใช้สื่อมากขึ้น และจากการที่แต่ละช่องมีช่วงเวลาโฆษณาเหลือ จึงนำมาปล่อยขายให้กับทีวีโฮมช็อปปิ้งในราคาถูก เลยทำให้โฮมช็อปปิ้งเล็งเห็นโอกาสซื้อเวลาโฆษณามากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สื่อที่มีการใช้โฆษณามากสุดในด้านของจำนวนเงินยังคงเป็น กลุ่มทีวีคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 55% ตามด้วยสื่อนอกบ้าน สัดส่วน 15-20% ทั้งสองสื่อยังมีอัตราการเติบโตทรงตัว ขณะที่ในสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นสื่อที่มีฐานเม็ดเงินน้อยยังเติบโตได้ต่อเนื่องในตัวเลขสองหลักจนปัจจุบันมีสัดส่วนที่ 15% ส่วนสื่อสิ่งพิมพ์ทั้งนิตยสารและหนังสือพิมพ์ต่างๆ เริ่มอยู่ในภาวะถดถอยมีการใช้เม็ดเงินโฆษณาน้อยลงเรื่อยๆ