posttoday

SPCGพบนักลงทุนจ่อโกยรายได้เพิ่มจากโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น

27 กุมภาพันธ์ 2561

SPCGเผยไตรมาส 2/61 จ่อโกยรายได้เพิ่มจากโครงการโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นเริ่มจ่ายไฟฟ้าได้เม.ย.นี้ มั่นใจปี 61 โกยรายได้เติบโตมากกว่า 10 % แตะระดับ 6,500-7,000 ล้านบาท

SPCGเผยไตรมาส 2/61 จ่อโกยรายได้เพิ่มจากโครงการโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นเริ่มจ่ายไฟฟ้าได้เม.ย.นี้ มั่นใจปี 61 โกยรายได้เติบโตมากกว่า 10 % แตะระดับ 6,500-7,000 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 27 ก.พ.  ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอสพีซีจี  (SPCG) แถลงผลประกอบการประจำปี 2560 ในงานวันบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) โดยมี นักลงทุนร่วมรับฟังจำนวนมาก  ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ดร.วันดี กล่าวว่า บริษัทมีรายได้จากผลประกอบการ 6,008 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิรวมจำนวน 2,822 ล้านบาท ซึ่ง SPCG มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจโซลาร์ฟาร์มและธุรกิจโซลาร์รูฟ และคาดว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/61 จะใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ ยังไม่มีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าใหม่ๆเข้ามา โดย สิ้นปี 2560 บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 260 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/61 บริษัทฯ เตรียมจะสรุปสัดส่วนการถือหุ้นและแหล่งเงินลงทุน ของโครงการโซลาร์ฟาร์ม "Ukujima Mega Solar Project" ขนาดกำลังผลิตประมาณ 480 เมกะวัตต์ ที่ เกาะ Ukujima เมืองนางาซากิ ในประเทศญี่ปุ่น โดยมีผู้ร่วมทุนทั้งสิ้น 8 บริษัท ได้แก่ Kyocera Corporation, Kyudenko Corporation, Mizuho Bank, SPCG, Tokyo Century Corporation, Furukawa Electric Company Limited, Tsuboi Corporation และ The Eighteenth Bank limited ใช้งบประมาณในการลงทุนประมาณ 58,000 ล้านบาท โดยคาดว่า จะเริ่มดำเนินก่อสร้างในปี 2562 และใช้ระยะเวลาการก่อสร้างราว 4 ปี

อย่างไรก็ตาม คาดว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ จะเริ่มเห็นการเติบโตตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/61 เป็นต้นไป เนื่องจากบริษัทฯ จะมีการรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่น ณ เมืองทตโตะริ กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ (MW) ที่จะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในเดือน เม.ย.

ดร.วันดี กล่าวว่า ในปี2561 บริษัทฯคงเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำ 10 % หรือขึ้นไปแตะระดับ 6,500-7,000 ล้านบาท จากปีก่อน 6,122.26 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโต ตามการรับรู้รายได้จากโครงการไฟฟ้าในญี่ปุ่น และบริษัทฯตั้งเป้าที่จะมีรายได้จากการติ้ดตั้งและจำหน่ายโซลาร์รูฟท็อป ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 1,500 ล้านบาท