posttoday

อมรินทร์ยุคเจริญลุย หลังการเงินคล่อง บุกเนื้อหาบันเทิง-กีฬา

22 กุมภาพันธ์ 2561

อมรินทร์ทีวีเผยหลังได้กลุ่มไทยเบฟ เป็นพันธมิตร สภาพคล่องการเงินดีขึ้น เตรียมลุยคอนเทนต์บันเทิง กีฬา ดันเรตติ้งปีนี้ขึ้นที่ 6

อมรินทร์ทีวีเผยหลังได้กลุ่มไทยเบฟ เป็นพันธมิตร สภาพคล่องการเงินดีขึ้น เตรียมลุยคอนเทนต์บันเทิง กีฬา ดันเรตติ้งปีนี้ขึ้นที่ 6

นายโชคชัย ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น ผู้บริหารช่องอมรินทร์ทีวี เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้กลุ่มไทยเบฟเวอเรจของกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี เข้าร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจ ทำให้บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแรงขึ้น มีเม็ดเงินมาทำเนื้อหาหรือคอนเทนต์ใหม่ๆ เพื่อสนองความต้องการผู้ชม และชิงเม็ดเงินโฆษณาที่มีอยู่จำกัด ซึ่งปีนี้บริษัทคาดจะเห็นรายได้จากการโฆษณาสินค้ามากขึ้น เนื่องจากปีนี้น่าจะมีการซินเนอร์จี้ธุรกิจในเครือ

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ บริษัทมีแผนจะใช้งบลงทุน 700-800 ล้านบาท พัฒนาคอนเทนต์ใหม่ เพื่อนำมาออกอากาศมากขึ้น โดยคอนเทนต์ที่จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษในปีนี้ คือ บันเทิง และกีฬา เนื่องจากทั้งสองคอนเทนต์มีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับคอนเทนต์ข่าวและรายการวาไรตี้ไลฟ์สไตล์ ซึ่งถือเป็นคอนเทนต์ หลักของช่องอมรินทร์ทีวี

"ตอนนี้บริษัทได้เริ่มใส่คอนเทนต์วาไรตี้ บันเทิงใหม่เข้าไปในช่องบ้างแล้วจำนวน 3 รายการ จากเป้าหมาย 4 รายการในไตรมาส 1 นี้ ซึ่งรายการสุดท้ายที่จะนำเข้าสู่ ผังรายการ คือ รายการศึกช้างมวยไทย เรียลฮีโร่ จะเป็นรายการมวยรูปแบบใหม่ คือ ชกยกเดียว เพื่อชิงเงินรางวัล 3 แสนบาท ทุกสัปดาห์ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-18.00 น." นายโชคชัย กล่าว

นอกจากนั้น ในส่วนของไตรมาส 2 บริษัทก็มีแผนที่จะนำรายการใหม่มาออกอากาศเพิ่มเติม หนึ่งในนั้น คือ รายการประเภทควิซโชว์ และซิทคอม เพื่อให้คอนเทนต์ของช่องอมรินทร์ทีวีมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งจากการปรับผังรายการดังกล่าวส่งผลให้ปี 2561 นี้ ช่องอมรินทร์ทีวีจะมีสัดส่วนรายได้ข่าวอยู่ที่ประมาณ 20-25% รายการบันเทิง 35% ที่เหลืออีกประมาณ 40% เป็นรายการวาไรตี้ และรายการไลฟ์สไตล์

นายโชคชัย กล่าวอีกว่า นอกจากจะให้ความสำคัญกับการเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ๆ แล้ว บริษัทยังมีแผนที่จะขยายช่องทางการทำตลาดไปยังสื่อออนไลน์ เพื่อหารายได้เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในสื่อออนไลน์ คาดว่าเร็วๆ นี้ น่าจะได้ข้อสรุป

อย่างไรก็ดี หลังจากบริษัทเดินหน้าพัฒนาคอนเทนต์ใหม่ๆ มาออกอากาศเพิ่มขึ้น บริษัทมั่นใจว่าสิ้นปี 2561 นี้จะสามารถผลักดันให้ช่องอมรินทร์ทีวีขึ้นมาอยู่ในอันดับ 6 ได้จากปัจจุบันอยู่ในอันดับ 7 ขณะเดียวกันก็มั่นใจว่าจะมีรายได้ จากการดำเนินธุรกิจเติบโตจากปี 2560 เนื่องจากปีนี้แนวโน้มการขายโฆษณาดีขึ้น ซึ่งในส่วนของรายการที่มีเรตติ้งสูงสุด คือ ทุบโต๊ะข่าว มีเรตติ้งเฉลี่ยที่ 1.5 ตามด้วยรายการสารคดี มีเรตติ้งเฉลี่ยที่ 0.8 (1 เรตติ้ง เท่ากับผู้ชม 5 แสนคน)