posttoday

ร้านอาหารขึ้นรับค่าแรง ซานตาเฟ่ปรับราคาเพิ่ม5%

30 มกราคม 2561

ซานตาเฟ่โอด ต้นทุนค่าแรงขึ้น ขอปรับค่าอาหารเพิ่ม 5% พร้อมลุยสาขาใหม่เพิ่มรายได้

ซานตาเฟ่โอด ต้นทุนค่าแรงขึ้น ขอปรับค่าอาหารเพิ่ม 5% พร้อมลุยสาขาใหม่เพิ่มรายได้

นายสุรชัย ชาญอนุเดช ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เรสทัวรองท์ ผู้บริหารร้านซานตาเฟ่ สเต๊ก เปิดเผยว่า จากการที่ภาครัฐประกาศขยับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณวันละ 8-22 บาท ส่งผลให้ต้นทุนค่าแรงมีการปรับเพิ่มขึ้นจาก 21% เป็น 23% เนื่องจากบริษัทมีพนักงาน ทั่วประเทศที่ทำงานทั้งหมดประมาณ 3,000 คน แบ่งเป็นพนักงานของบริษัทโดยตรง 1,700 คน และพนักงานที่ขึ้นอยู่กับร้าน แฟรนไชส์อีกประมาณ 1,300 คน ทำให้บริษัทต้องจ่ายค่าแรงพนักงานเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยเดือนละ 20 ล้านบาท เป็น 21 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้บริษัทต้องปรับค่าอาหารเพิ่มขึ้นประมาณ 5% จากเดิมตั้งใจว่าจะปรับขึ้นประมาณ 3% ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ต้นทุนค่าแรงถือเป็นต้นทุนที่สูงอันดับ 2 รองจากต้นทุนวัตถุดิบ ซึ่งคิดเป็น 40% ของต้นทุนทั้งหมด ส่วนอันดับ 3 เป็นของต้นทุนค่าเช่าคิดเป็น 22% และที่เหลืออีกประมาณ 5% เป็นต้นทุนอื่นๆ

"ปัญหาต้นทุนที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ผลกำไรจากการดำเนินงานปรับลดลง จากเดิมเคยได้ผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจประมาณ 10% แต่ปัจจุบันลดเหลือประมาณ 7-8% เนื่องจากการแข่งขันรุนแรงทั้งจากช่องทางออฟไลน์ที่เป็นร้านอาหารด้วยกันเองและช่องทางออนไลน์" นายสุรชัย กล่าว

 
นายสุรชัย กล่าวต่อไปว่า จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ภาพรวม ธุรกิจร้านอาหารที่เป็นในส่วนของร้าน เซมสโตร์มียอดขายติดลบ 3% เป็นครั้งแรก แต่จากการที่ผู้ประกอบการหันมาเร่งเปิดร้านอาหารสาขาใหม่กันอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารปี 2560 ที่ผ่านมาเติบโตอยู่ที่ 7%

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดร้านซานตาเฟ่สาขาใหม่จำนวน 20 สาขา ภายใต้งบลงทุน 200 ล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทเปิดเอง 10 สาขา และแฟรนไชส์ 10 สาขา เพื่อให้สิ้นปี 2561 มีจำนวนสาขาเปิดให้บริการครบ 123 สาขา

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะนำร้านซานตาเฟ่เข้าไปเปิดให้บริการในประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรที่จะเข้ามาเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ คาดว่าไตรมาส 4 ที่จะถึงนี้จะได้ข้อสรุป ทั้งนี้จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลให้สิ้นปี 2561 จะมีรายได้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,650 ล้านบาท