"อะโคเนติก" ทุ่มออนไลน์ ชู 3 กลยุทธ์หลักเร่งยอดขาย

อะโคเนติกเปิดเกมรุกขายออนไลน์ ชู 3 กลยุทธ์เปิดตัวสินค้า ผนึกพันธมิตร เน้นพีอาร์หวังดันยอดขายปีนี้โต 200%

น.ส.จันทกร บุญเลิศกุล ผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดออนไลน์ บริษัท ดิ ไอ ไลฟ์ ในเครือบริษัท ไฮไฟ โอเรียนท์ ไทย ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายแบรนด์ อะโคเนติกเปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในช่องทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากปี 2560 ที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายในช่องทางออนไลน์เติบโตมากถึง 200% บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในการรุกตลาดผ่านช่องทางดังกล่าว

สำหรับแผนการตลาดที่บริษัทจะใช้มาเพิ่มยอดขายในปีนี้ บริษัทจะใช้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.ขายสินค้าให้ได้มากขึ้นด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด จากปัจจุบันบริษัทมีสินค้ามากกว่า 70 รายการขายผ่านช่องทางออนไลน์ของพันธมิตร 2.การขยายช่องทางขายออนไลน์มากขึ้น ด้วยการจับมือกับพันธมิตรที่ทำธุรกิจออนไลน์ ซึ่งในปีนี้จะผนึกกับพันธมิตรที่จำหน่ายมือถือและอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น

ขณะที่กลยุทธ์ที่ 3 จะเป็นการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ รวมไปถึงการทำกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งล่าสุดบริษัทได้มีการจัดแคมเปญ ACONATIC OHAYO เพียงลูกค้าซื้อสินค้าในหมวดเครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ และเครื่องทำความเย็น ผ่านช่องทางออนไลน์ และส่งใบรับประกันสินค้า ที่ต้องกรอกชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรลงในใบรับประกันให้ชัดเจน ส่งกลับมาที่ บริษัท ดิ ไอ ไลฟ์ ก็ได้ร่วมลุ้นรางวัลทริปญี่ปุ่น จำนวน 15 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-30 มิ.ย.นี้ โดยช่วงที่มีการจัดแคมเปญดังกล่าวบริษัทคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มจากปกติไม่ต่ำกว่า 10-20%

“สินค้าที่ขายดีในช่องทางออนไลน์อันดับ 1 จะเป็นในกลุ่มทีวี ตามด้วยเครื่องเสียง ตู้เย็นมินิบาร์ และลำโพงบลูทูธ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้บริษัทมียอดขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสินค้าของเรามีคุณภาพและราคาต่ำกว่าคู่แข่งในตลาด เช่น สมาร์ททีวี 32 นิ้ว ของเราขายในราคา 6,290 บาท ขณะที่คู่แข่งขายในราคา 7,000-8,000 บาท เป็นต้น”น.ส.จันทกร กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังมีศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วประเทศมากถึง 100 แห่ง ขณะที่ตัวสินค้าก็มีการรับประกันนานถึง 5 ปี จึงทำให้สินค้าได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ซึ่งหลังจากบริษัทเดินหน้าทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปี 2561 นี้น่าจะมียอดขายในช่องทางออนไลน์เติบโตไม่ต่ำกว่า 200% และมีสัดส่วนยอดขายในช่องทางออนไลน์อยู่ที่ 20% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 10%