ซีพีเอ็นลุยไลฟ์สไตล์มอลล์

โดย...จะเรียม สำรวจ

การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจศูนย์ การค้าต้องปรับตัวอย่างหนักเพราะหากยังย่ำอยู่ที่เดิม ลูกค้าก็จะหันไปใช้บริการศูนย์การค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ ยิ่งปัจจุบันมีช็อปปิ้งออนไลน์เข้ามาเป็นคู่แข่งเพิ่ม จึงทำให้ธุรกิจศูนย์การค้าต้องปรับรูปแบบของการให้บริการทั้งภายนอกและภายใน เพื่อดึงความสนใจลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการมากที่สุด

ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา หรือซีพีเอ็น กล่าวว่า การทำธุรกิจศูนย์การค้า นับจากนี้ไม่สามารถเป็นสถานที่ ช็อปปิ้งได้เพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมของ ผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างมาก ดังนั้นศูนย์การค้าต้องปรับตัวตามให้ทันเปลี่ยนจากศูนย์การค้า ที่เป็นสถานที่ช็อปปิ้งเพียงอย่าง เดียว สู่การเป็นศูนย์การค้าที่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ด้วยการวางตัวเองเป็นศูนย์กลางในด้านของเมือง ศูนย์กลางในด้านของนวัตกรรม ศูนย์กลางในด้านของเทคโนโลยี และศูนย์กลางในด้านของการทำกิจกรรม

ที่ผ่านมาศูนย์การค้าในเครือของซีพีเอ็นได้ปรับตัว เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด แต่ที่เห็นได้ชัดคือศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ซึ่งถือเป็นศูนย์การค้าสาขาแรกที่ซีพีเอ็น มีการปรับรูปแบบของบริการให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากที่สุด เช่น การให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาทำกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ

สาขาต่อมาที่ซีพีเอ็นให้ความ สำคัญกับการทำศูนย์การค้าที่เน้น ความเป็นไลฟ์สไตล์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับลูกค้า คือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา เพราะนอกจากจะให้ความสมบูรณ์แบบในด้านของสินค้าและบริการที่เหมือนศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ คือ มีห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลมาเปิดให้บริการด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการปรับพื้นที่ส่วนกลางเป็นสถานที่จัดกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาให้บริการ เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งในอนาคตซีพีเอ็นมีแผนที่จะนำโมเดลของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา ไปใช้กับศูนย์การค้าใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา มหาชัย หรือศูนย์การค้ารเซ็นทรัลเวิลด์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุง

ขณะเดียวกัน ยังมีแผนที่จะสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นในเขตภาคตะวันออก เพื่อรองรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ที่ขณะนี้ภาครัฐกำลังให้การสนับสนุน

สำหรับแผนการทำตลาดในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ซีพีเอ็นมีแผนที่จะใช้งบตลาดรวมกว่า 400 ล้านบาท จัดกิจกรรมและการตลาดรวมทั้ง โปรโมชั่นต่างๆ เพื่อรองรับกับช่วงเทศกาลต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี ซึ่งกิจกรรมใหม่ที่ถือเป็นไฮไลต์คือ การเปิดไฟต้นคริสต์มาสและการจัดงานเคาต์ดาวน์ ซึ่งปีนี้มีแผนที่จะจัดงานกระจายไปยังศูนย์การค้าในเครือประมาณ 8 สาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ ก็เพื่อสร้างบรรยากาศในการช็อปปิ้งให้กลับมาคึกคักควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่